เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่อาคารรัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรากฎหมายนิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง การเตรียมเสนอรายงานการศึกษาของคณะกรรมาธิการฯ ต่อที่ประชุมสภาฯ ในวันพฤหัสบดีที่ 26 ก.ย. นี้ โดกระบวนการในการเตรียมยกร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมต่อจากนี้ ขึ้นอยู่กับมติของที่ประชุมสภาฯ ส่วนในวันพฤหัสนี้เป็นเพียงการเสนอรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ซึ่งตนเองเป็นประธาน และต้องย้ำว่ายังไม่ใช่ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ทั้งนี้ มติของที่ประชุมอาจจะให้รัฐบาลหรือพรรคการเมืองต่างๆ รับรายงานไปพิจารณาว่าสมควรจะยกร่าง พ.ร.บ. อย่างไร กรรมาธิการวิสามัญฯ ไม่มีอำนาจไปบังคับ

เมื่อถามประเด็นที่ยังมีความละเอียดอ่อน คือการนิรโทษกรรมคดีในความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ในรายงานไม่ได้บอกว่าจะให้รวมคดีมาตรา 112 ไว้หรือไม่ เพียงแต่นำทุกข้อเสนอทั้งหมดให้สภาและรัฐสภาพิจารณา ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสมาชิกทั้งหลายเหล่านั้นว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ เพราะอย่างไรเสียในขั้นตอนการยกร่างกฎหมายว่าจะรวมหรือไม่ เราก็ไม่มีอำนาจตรงนั้น

ส่วนจะมีสิ่งการันตีหรือไม่ว่ารัฐบาลจะหยิบยกกฎหมายนิรโทษกรรมขึ้นมาจัดทำ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรไปบังคับรัฐบาลได้ เพราะเป็นคนละส่วนกัน รัฐบาลจะเสนอกฎหมายด้วยแนวทางไหนอย่างไร หรืออาจจะยังไม่เสนอ แต่ให้พรรคการเมืองดำเนินการ ก็สามารถทำได้

นายชูศักดิ์ ยังกล่าวว่า แม้รัฐบาลจะยังไม่ตอบสนองต่อการเสนอรายงาน  รายงานฉบับนี้ก็ยังไม่ถือว่าสูญเปล่า เพราะรัฐบาลก็อาจมีมติส่งให้พรรคการเมืองพิจารณาไปเสนอเป็นร่างกฎหมายเข้ามาก็ได้ ขณะที่ในส่วนของพรรคเพื่อไทยเอง ก็ยังไม่ได้มีการหารือว่าจะเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของพรรคหรือไม่ เพียงแต่ตั้งเรื่องศึกษาให้มีองค์ความรู้ว่าควรดำเนินการด้านกฎหมายอย่างไรในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น.