เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ
กระผมจัดว่าเป็นชายสูงวัยมีเรื่องจะขอคำแนะนำจากคุณหมอ คือตอนนี้อายุได้ 77 ปี และมีโรคประจำตัวอยู่ คือโรคหัวใจ เป็นมา 3 ปี ได้ผ่านการทำบอลลูนมาแล้ว 1 ครั้ง และตอนนี้ก็ยังรับประทานยาอยู่ ชื่อยาที่รับประทานประจำทุกวัน ได้แก่ Enapril 5 มก. Aspirin 81 มก. Isosorbide dinitrate 10 มก. และZimmex 40 มก. และเมื่อหลังปีใหม่ 2566 มีอาการทางอวัยวะเพศไม่แข็งตัวเต็มที่ และมีอาการหลั่งเร็วผิดปกติและไม่สามารถร่วมเพศได้
จึงขอคำแนะนำจากคุณหมอว่าจะมีการรักษาให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ตามปกติเหมือนเดิมไหม และจะต้องไปพบหมอที่คลินิกด้วยหรือเปล่า
ด้วยความนับถือ
ไกรศร
ตอบ ไกรศร
ชายวัย 77 ปี ป่วยเป็นโรคหัวใจ ได้ทำการรักษาด้วยการทำบอลลูน และรับประทานยาอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 3 ปีเศษ ปัจจุบันมีอาการแทรกซ้อนของโรคหัวใจก็คืออาการอีดี คืออวัยวะเพศไม่แข็งตัว และอาการหลั่งเร็ว ซึ่งสามารถพบได้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด การรักษาอีดีในผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญและใส่ใจเป็นอย่างมาก ชายบางคนไม่ทราบว่าตัวเองมีภาวะของโรคหัวใจพอมีอาการอีดีก็พยายามหาซื้อยากินเอง ส่งผลเสียต่อสุขภาพทางกายจนถึงขั้น
เสียชีวิตได้
การรักษาอาการอีดีของชายวัย 77 ปี จะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายจากแพทย์โดยตรงและทำการตรวจอย่างละเอียดซึ่งผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีการใช้ยากลุ่มไนเตรตดังเช่นชายวัย 77 ปีรายนี้ ไม่สามารถใช้ยาเฉพาะกิจในการฟื้นฟูอาการอีดีได้ถือเป็นข้อห้าม เพราะฤทธิ์ของยาเฉพาะกิจจะไปเสริมฤทธิ์ของยาในกลุ่มไนเตรตทำให้ความดันเลือดลดต่ำลงมากจนอาจช็อกและเสียชีวิตได้ ที่มีลงข่าวตามหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ให้เห็นกันอยู่รายวัน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงต่อหัวใจวายเฉียบพลันแล้วไม่รู้ตัวโดยไม่ได้ตรวจเลือดชนิดเอ็นทีโปรบีเอ็นพี
การรักษาอาการอีดีในผู้ป่วยกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงและมีประสิทธิผลควรได้รับการรักษาด้วยการกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดขึ้นมาใหม่ ซึ่งหลักการของการรักษาด้วยวิธีนี้จะช่วยในกระบวนการสร้างเส้นเลือดใหม่ในองคชาตให้เพิ่มมากขึ้น เมื่อมีจำนวนเส้นเลือดใหม่มากขึ้นก็จะส่งผลให้มีเลือดไหลเข้าองคชาตเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่ควรทำคู่กันคือ ฝึกกล้ามเนื้อเพศเฉพาะให้แข็งตัว 30 นาที โดยไม่ต้องกินยาเฉพาะกิจ ปลอดภัยที่สุดสามารถแข็งตัวได้ทุกโอกาส ข้อห้ามคืออย่าซื้อยากินเอง.
…………………………………………
ดร.โอ สุขุมวิท 51
