จากกรณีที่ นายนพดล อันทะษี  อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 999 ม.10 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย  เจ้าของรีสอร์ทริมแม่น้ำโขงแห่งหนึ่ง ใน จ.หนองคาย ขับรถเก๋งโตโยต้า แคมรี่ สีดำ หมายเลขทะเบียน กท -157 หนองคาย มาตามง้อ น.ส.คลิตา แฝงฤทธิ์ หรือ หมิว  อายุ 28 ปี ที่บ้านเลขที่ 139 หมู่ 10 บ้านขามป้อม ต.โพนเพ็ก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น  แต่ง้อไม่สำเร็จก่อนใช้อาวุธปืนชนาด 11 มม.ยิงแม่ยาย ภรรยา รวมทั้งหลานชาย จนเสียชีวิตก่อนยิงตัวเองตายตาม โดยทิ้งลูกสาววัย 2 ขวบไว้ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 21 ก.ย.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มัญจาคีรีได้ทำการตรวจสอบภายในรถของนายนพดล พบว่ามีอุปกรณ์การเสพยาไอซ์ ในรถเป็นจำนวนมาก ในขณะที่เจ้าหน้าที่ได้นำร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ศพออกมา โดยร่างของนาย นพดล มือปืน ญาติได้มาติดต่อขอรับศพเพื่อนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ จ.หนองคาย โดยญาติไม่ติดใจ

ขณะที่ ศพของแม่ยาย ภรรยา และหลานชาย  ที่ถูกนายนพดล ยิงเสียชีวิตภายในบ้านพักนั้น ญาติได้นำใส่โลงเพื่อเตรียมประกอบพิธีทางศาสนา ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้อง และชาวบ้าน รวมทั้งเพื่อนของนายพลพิพัฒน์ ที่ต้องมาเสียชีวิตทั้งที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย และพบว่าขณะเกิดเหตุนั้น นายพลพิพัฒน์ ได้ ส่งข้อความไปหาแม่ที่อยู่ กรุงเทพฯ ว่า ” แม่ บักบอย มันยิง ตายหมด” ก่อนที่แม่จะพยายามโทรหาแต่ไม่รับสาย  จนกระทั่งทราบว่าถูกยิงเสียชีวิตแล้ว

หนุ่มหึงโหดตามง้ออดีตเมียไม่สำเร็จ ยิงทิ้งยกครัวก่อนยิงตัวเองดับ4ศพต่อหน้าลูกสาว2ขวบ

นายเวียงชัย คำตุ้ม อายุ 58 ปี 166 ม.10 ต.โพนเพ็ก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น สามีของนางจรวยพร  และเป็นพ่อของ น.ส.คลิตา กล่าวว่า ออกไปซื้อกับข้าวในหมู่บ้าน ซึ่งมีเพื่อนบ้านได้โทรมาบอกว่า ได้ยินเสียงปืนดังอยู่ในบ้าน ก่อนที่ตนเองจะโทรแจ้งตำรวจว่ามีเสียงปืนดังขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ จึงได้เดินทางมาที่เกิดก่อน ส่วนตนเองก็ขับรถกลับมาบ้าน พอมาถึงบ้านทางเจ้าหน้าที่ไม่ให้ตนเองเข้าไป เพราะเกรงว่ามือปืนจะทำร้ายคนอื่นอีก และยังไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร จึงได้รอให้เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่และเคลียร์พื้นที่ก่อน ซึ่งเพื่อนบ้านบอกว่าได้ยินเสียงปืนดังครั้งแรก 3 นัด ครั้งที่สอง 4 นัด ครั้งที่สาม อีก 2 นัด

นายเวียงชัย กล่าวว่า พอเจ้าหน้าที่ได้เคลียร์พื้นที่เรียบร้อย พร้อมกับอุ้มหลานสาวออกมาบอกว่าหลานไม่โดนยิง จึงได้เข้าไปดูกระทั่งทราบว่าถูกยิงตายแล้ว 4 ศพ ทั้งภรรยาตนเอง ลูกสาว หลานชาย และอดีตลูกเขย ส่วนหลานสาววัย 1 ขวบ 7 เดือน รอดชีวิตคนเดียวในบ้าน ซึ่งคาดว่ามือปืนน่าจะมาประมาณ 08.00 น. เพราะตอนที่ตนออกไปซื้อกับข้าว ยังไม่เห็นรถของนายนพดลมาจอด ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกสาวได้หนีสามีมาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ได้ยินว่าเคยทะเลาะกันมาก่อนแล้ว ตบตีกันมาก่อน ถึงขั้นขึ้นศาลมาแล้วตั้งแต่อยู่ จ.หนองคาย

นายเวียงชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยคิดอยู่ว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ เพราะเหตุการณ์แบบนี้ได้ยินในข่าวบ่อยๆ และก็ได้เตือนลูกสาวไปบอกว่า ตอนที่ถูกเขาตบเขาตีก็อย่าไปตอบโต้เขา เดี๋ยวเขาจะยิงหรือฆ่าทิ้ง ซึ่งก็เคยได้เตือนไว้อยู่