เมื่อวันที่ 21 ก.ย. นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงความร่วมมือกลุ่มประเทศสมาชิกยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง หรือแอคเมคส์ ที่ประกอบด้วยไทย กัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เมียนมา เวียดนาม เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยลุ่มน้ำโขง ว่า ตนได้ประชุมร่วมกับเอกอัครราชทูตกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งได้พูดคุยถึงแผนระยะสั้นและระยะยาวในการแก้ปัญหาแม่น้ำโขง ทั้งจากภาวะน้ำท่วม และน้ำแล้ง โดยแผนระยะสั้นจะอยู่บนพื้นฐานการวางระบบเตือนภัย แม้แต่ละประเทศมีสภาพแวดล้อมและการพัฒนาที่แตกต่าง แต่ก็จะต้องมั่นใจได้ว่าแผนการเตือนภัยนั้นจะต้องสอดรับกับทั้งประเทศไทย เมียนมา และประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ โดยใช้กลไกองค์กรระหว่างประเทศ 2 องค์กรที่มีอยู่แล้ว คือสถาบันแม่โขง (Mekong Institute) ที่ตั้งอยู่ใน จ.ขอนแก่น และคณะกรรมการแม่น้ำโขง (เอ็มอาร์ซี) โดยไทยจะรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับแม่น้ำโขงมาใช้ประโยชน์ เพื่อให้กลุ่มประเทศสมาชิกได้ประโยชน์ร่วมกัน

นายมาริษ กล่าวอีกว่า ส่วนแผนระยะยาว กระทรวงการต่างประเทศจะรีบจัดการประชุมกลุ่มแอคเมคส์ โดยจะต้องเพิ่มบทบาทและความรับผิดชอบในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเอกอัครราชทูต 4 ประเทศสมาชิกนี้เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งอย่างเป็นระบบที่ชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีกลไกความร่วมมืออื่นๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (เอ็มแอลซี) (Mekong-Lancang Cooperation – MLC) ซึ่งมีประเทศจีนเป็นสมาชิกด้วย และยังมีกรอบความร่วมมือแม่โขง-สหรัฐอเมริกา, แม่โขง-ญี่ปุ่น และแม่โขง-เกาหลีใต้ มาใช้ เพื่อรับช่วงต่อในการนำเอาองค์ความรู้ของสถาบันแม่โขง และเอ็มอาร์ซีมาบูรณาการร่วมกันในการจัดการแม่น้ำโขง เพื่อนำไปสู่การทำความเข้าใจในการนำไปใช้ประโยชน์ให้เกิดผลสัมฤทธิ์

นายมาริษ กล่าวว่า ทั้งสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ พร้อมสนับสนุนองค์ความรู้ และสามารถให้ความช่วยเหลือกลุ่มประเทศแม่น้ำโขงในการวางโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อป้องกันอุทกภัยในอนาคตในระยะยาวด้วย หรือหากยังต้องการองค์ความรู้อื่นๆ เพิ่มเติมจากกลไกความร่วมมือเหล่านี้ ประเทศไทยพร้อมประสานกับเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นในการป้องกันระบบน้ำท่วม มาสนับสนุนองค์ความรู้ในการบริหารจัดการครั้งนี้ด้วย

นายมาริษ กล่าวว่า นอกจากนี้ ตนได้หารือทางโทรศัพท์กับนายสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ สปป.ลาว เพื่อพูดคุยถึงการแก้ไขปัญหา และการจัดการอุทกภัย และสถานการณ์แม่น้ำโขง ซึ่งทั้งไทย และ สปป.ลาว ห่วงกังวลต่อสถานการณ์อุทกภัยรุนแรง ซึ่ง สปป.ลาว พร้อมส่งเสริมความร่วมมือให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในระดับทวิภาคี และใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากกรอบความร่วมมือต่างๆ ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เพื่อป้องกันภัยพิบัติและการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ในระยะสั้น สปป.ลาว พร้อมจะขยายการติดตั้งโทรมาตรวัดน้ำไปยังลำน้ำสาขา และซ่อมแซมในส่วนที่เสียหายจากน้ำท่วม ส่วนในระยะยาว ฝ่าย สปป.ลาว พร้อมจะประสานและบูรณาการข้อมูลกับฝ่ายไทยให้เกิดระบบการเตือนฉุกเฉินในภาพใหญ่ด้วย ตนจึงมั่นใจว่า ความร่วมมือในระดับทวิภาคีนี้ จะเสริมให้ความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาคนี้แข็งแรงยิ่งขึ้นด้วย