เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ก.ย. ที่ สถานีรถไฟยะลา พล.ท.ธัชพล เปี่ยมวุฒิ ผอ.ศปป.5 กอ.รมน., พ.อ.สุทธิพงษ์ พืชมงคล ผอ.สบพ.ศปป.5 กอ.รมน. และ คณะศปป.5 กอ.รมน. พร้อมสื่อมวลชน เดินทางเข้ารับทราบภารกิจของกองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน (ร้อย.อส.รถไฟ)

มว.ท.ณรงค์ นุทผล ผบ.ร้อย.ปพ.2 บก.อส. ร้อย.อส.รถไฟ เปิดเผยว่า ร้อย.อส.รถไฟ เป็นหน่วยในการควบคุมทางยุทธการ กับกองบังคับการควบคุมกองอาสารักษาดินแดน จังหวัดชายแดนภาคใต้ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดยมีหน้าที่ความรับผิดชอบจัดกำลังสมาชิก อส. รักษาความปลอดภัยบนขบวนรถไฟทุกขบวน ตั้งแต่สถานีรถไฟหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผ่าน จ.ปัตตานี จ.ยะลา จนถึง สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาสระยะทาง ประมาณ 270 กิโลเมตร ทุกขบวนต่อวัน ทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ จำนวน 35 สถานี 2 ที่พักคอย

โดยการจัดกำลัง รปภ.ขบวนรถไฟ ดังนี้ จัดกำลังสมาชิก อส.รปภ.รถไฟ จำนวน 18 ขบวนต่อวัน ขบวนละ 8-10 นายต่อขบวน ใช้กำลังสมาชิก อส. ประมาณ 80-120 นายต่อวัน มีการแบ่งหมวดปฏิบัติการ รปภ.ขบวนรถไฟออกเป็น 3 หมวดปฏิบัติการ ดังนี้ หมวดปฏิบัติการที่ 1 หาดใหญ่ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับผิดชอบ รปภ.ขบวนรถไฟ จำนวน 10 ขบวนต่อวัน โดยเที่ยวไปและเที่ยวกลับ ประกอบด้วย ขบวน 171,172 รถเร็ว กรุงเทพ-สุไหงโกลก-กทม., 985,986 รถพิเศษรับ-ส่งสินค้า กรุงเทพ-สุไหงโกลก-กทม., 463,464 รถท้องถิ่น พัทลุง-สุไหงโกลก-พัทลุง, 47,38 รถด่วนพิเศษ กรุงเทพ-สุไหงโกลก-กรุงเทพ, 169,170 รถเร็ว กรุงเทพ-ยะลา-กรุงเทพ

หมวดปฏิบัติการที่ 2 ยะลา ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา รับผิดชอบ รปภ.ขบวนรถไฟ จำนวน 6 ขบวนต่อวัน ทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ เป็นขบวนท้องถิ่นทั้งหมด ประกอบด้วย ขบวน453,454 รถท้องถิ่น ยะลา-สุไหงโกลก-ยะลา, 455,456 รถท้องถิ่น นครศรีฯ-ยะลา-นครศรีฯ, 451,452 รถท้องถิ่น นครศรีฯ-สุไหงโกลก-นครศรี

ปฏิบัติการที่ 3 สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ตั้งอยู่ที่สถานีสุไหงโกลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รับผิดชอบ รปภ.ขบวนรถไฟ จำนวน 2 ขบวนต่อวัน ทางเที่ยวไปและเที่ยวกลับ เป็นขบวนท้องถิ่นทั้งหมด ประกอบด้วยขบวน 447,448 รถท้องถิ่น สุราษฏร์-สุไหงโกลก-สุราษฏร์

สรุปพื้นที่เพ่งเล็ง, พื้นที่เสี่ยง, พื้นที่ล่อแหลม, และพื้นที่ที่เคยเกิดเหตุซ้ำดังนี้ จ.นราธิวาส ได้แก่ อ.ระแงะ จำนวน 5 ครั้ง ลอบชุ่มยิง 3 ครั้ง

ลอบวางระเบิด 2 ครั้ง, อ.เจาะไอร้อง จำนวน 3 ครั้ง วิสามัญคนร้าย 1 ราย ลอบซุ่มยิง 2 ครั้ง, อ.รือเสาะ จำนวน 6 ครั้ง ลอบซุ่มยิง 3 ครั้ง ลอบวางระเบิด 3 ครั้ง, อ.รามัน จ.ยะลา จำนวน 4 ครั้ง ลอบซุ่มยิง 2 ครั้ง ลอบวางระเบิด 2 ครั้ง, อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี จำนวน 2 ครั้ง ลอบวางระเบิด 2 ครั้ง

สำหรับการปฏิบัติร่วมกับหน่วยอื่น ได้แก่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจค้นจับกุมสิ่งของผิดกฎหมายบนขบวนรถไฟ และร่วมกันตรวจสอบบุคคลต่างด้าวที่โดยสารมาบนขบวนรถไฟ ทั้งนี้ยังมีเรื่องของการดูแลอำนวยความสะดวก และการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้บังคับบัญชาระดับสูงจากส่วนกลาง ที่เดินทางมาปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย

พ.อ.อนุชา โนนคู่เขตโขง รองเลขาธิการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่ตำรวจรถไฟได้มีการยุติบทบาทไปเมื่อปีที่แล้วนั้น ยังไม่ได้การเพิ่มกำลัง สมาชิก อส.รถไฟ เนื่องจากสมาชิกอส.รถไฟ เป็นเพียงแค่ผู้ช่วยไม่มีอำนาจในการจับกุม แต่หากพบเจอการกระทำความผิดที่ผิดกฎหมาย หรือมีบุคคลที่กระทำความผิดขึ้นมาบนขบวนรถไฟ ทางอส.รถไฟ จะมีการแจ้งเจ้าหน้าที่ไปที่ปลายทาง ด้านตำรวจก็จะไปดักรออยู่ที่ปลายทาง จึงยืนยันว่าการที่ไม่มีตำรวจบนรถไฟยังไม่มีผลอะไร และสถานการณ์ยังคงปกติ ไม่ส่งผลกระทบต่อบนรถไฟ สำหรับมาตรการหลังจากนี้จะเข้มงวดมากขึ้น หากมีข่าวสาร ว่าจะมีการก่อเหตุตามขบวนรถไฟ ก็จะมีการให้หน่วยในพื้นที่ยกระดับแผนการรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ยังให้ภาคประชาชนเข้ามาช่วยอีกด้วย

สำหรับความปลอดภัยของอส.บนรถไฟ จะมีเสื้อเกราะป้องกัน และยังได้มีการกำชับสำหรับพื้นที่จุดเสี่ยงสองข้างทาง ตัวอส.ที่อยู่บนรถไฟจะต้องมีความระมัดระวังตัวเองเป็นพิเศษ และยังมีเรื่องของการแย่งชิงอาวุธบนรถไฟก็มี ฉะนั้นการพกพาอาวุธจึงต้องรัดกุม

ทั้งนี้ ยืนยันว่าการเดินทางผ่านรถไฟยังเป็นการเดินทางที่มีความปลอดภัย หลังจากนี้จะมีการเพิ่มมาตรการ สำหรับเรื่องระบบAI กล้อง CCTV มาใช้สำหรับจุดเสี่ยงทั้งหมดกว่า 20 จุด และคาดว่าหลังจากที่มีระบบ AI เข้ามาช่วยจะทำให้ผู้ก่อเหตุไม่กล้าที่จะก่อเหตุมากขึ้น.