จากกรณี ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่ตนได้มอบหมายนายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักพัฒนาบริหารงานบุคคลและนิติกร ได้แถลงสรุปผลสอบข้อเท็จจริง กรณี ครูเบญญาภา สอบพนักงานราชการ ตำแหน่งครูผู้สอน สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป ลำดับที่ 1 ของ สพม.สระแก้ว แต่รายชื่อกลับล่องหนในการประกาศรายชื่อฉบับใหม่รอบที่สอง สร้างความสับสนให้สังคม จนเป็นประเด็นร้อนถึงความไม่ชอบมาพากลในการสอบครั้งนี้ ในวันที่ 20 ก.ย. เวลา 10.00 น. นั้น ซึ่งตนขอชี้แจงว่าผลสรุปการสอบข้อเท็จจริงกรณีครูเบญสรุปออกมาแล้วว่า

ผลสอบของครูเบญ คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ คือ ไม่ถึง 60 % ตามที่ระเบียบกำหนดไว้ ทั้งภาค ก. และ ภาค ข.จริง และไม่ติด 1 ใน 10 ซึ่งให้ครูเบญยืนยันแล้ว

ส่วนคนที่ได้ที่ 1 พบว่าคะแนนสูงสุดจริง ซึ่งบุคคลดังกล่าวมีผลการเรียนที่ได้เกียรตินิยม และสภาพแวดล้อมหลายอย่าง ยืนยันน่าจะสอบได้จริง แต่ต้องรอผลการสอบของผู้เชี่ยวชาญยืนยันอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ล่าสุดเฟซบุ๊ก รภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน ของรองเจมส์ รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม โพสต์ข้อความเป็นคำพูดของน้าครูเบญว่า

“ผมถามน้าครูเบญเรื่องผล ซึ่งตัวครูและน้าทราบแล้ว เพราะเมื่อวานเจ้าหน้าที่มาพาครูเบญไปตรวจตอน 6 โมงเย็น โดยตั้งกล้องบันทึกภาพและไม่ให้ใช้มือถือราว 1 ช.ม.

น้าบอกว่าตอนนี้คงไม่ให้ครูเบญพูด หรือเดินเรื่องอะไรแล้ว เพราะน้องบอบช้ำกับการสอบและผลของการสอบระบบนี้มากพอแล้ว น้าตัดพ้อทำนองตรวจสอบไปก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะก็รู้ๆ กัน

ตอนนี้ทราบว่าที่ทำงานเก่าครูยังไม่อนุมัติใบลาออก เท่ากับครูเบญก็จะเดินหน้ากลับไปสอน เป็นคุณครูอัตราจ้างสอนเด็ก ป.1 เหมือนเดิม ต้องเดินหน้าต่อ เพราะเด็กๆ ป.1 รอคุณครูเบญ กลับไปสอนพวกเขาอยู่…”

ขอบคุณมูลนิธิฯ ที่ทำให้คนในสังคมได้รับรู้กับเรื่องราวนี้ ให้สังคมผู้ใหญ่ได้ตื่นรู้ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหา และเรื่องนี้เชื่อว่าคนในสังคมทุกคนจะตัดสินได้ น้ากล่าวทิ้งท้ายไว้แบบนี้…”