สตาร์ตด้วย อาหารมิชลินจากเชฟเทเบิลที่ “บ้านสวนลุงไข่” ร้านอาหารแบบพื้นบ้านที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางสวนมะพร้าว แต่ละวันจะเสิร์ฟเมนูไม่ซํ้ากันขึ้นอยู่กับว่าจะได้วัตถุดิบที่เป็นอาหารทะเลสด ๆ จากชาวเลเป็นอะไร โดยจะสร้างสรรค์เมนูแบบวันต่อวัน บอกเลยว่าห้ามถามหาปลากะพงหรือปลาจะละเม็ด เพราะที่นี่จะเสิร์ฟเฉพาะปลาพื้นถิ่นที่ชาวประมงพื้นบ้านหาได้อย่างปลากะโมง ปลานกเขา ปลาเหล็กโคน นำมาแมตช์กับวัตถุดิบจากในสวน ทั้งมะพร้าว ผักเหลียง และผักพื้นบ้านชนิดอื่น ๆ แรก ๆ เริ่มต้นด้วยเมนูง่าย ๆ อย่างขนมจีน และเมนูพิเศษประจำวัน ก่อนจะเพิ่มเติมเมื่อ “เพื่อน” ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ที่เพิ่งพานพบเริ่มบอกต่อปากต่อปากจนคนรู้จักมากขึ้น โดยเปลี่ยนมาเสิร์ฟแบบเซตเมนูราคาเริ่มต้นตั้งแต่เบา ๆ คนละ 350 บาทไปจนถึง 1,000 บาท บอกเลยว่าจัดมาเต็มทั้งคาวหวาน อาหารพื้นบ้าน ซีฟู้ด และขนมหวานพื้นถิ่นอย่างขนมโค ขนมตาล ไปถึงข้าวเหนียวอุบมะม่วงกะทิสด

อีกร้านที่แนะนำให้ไปคือ บ้านสวนลางสาด ที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่ผลไม้พื้นบ้านตามฤดูกาลให้เก็บ สอย ชิมแบบไม่หวงแล้ว เมนูอาหารพื้นบ้านยังจัดว่าเด็ดหรอยแรง จากจุดเริ่มต้นที่ต้องการอนุรักษ์ลางสาดพันธุ์สายนํ้าผึ้ง ของ เกาะสมุย ที่คุณปู่ปลูกไว้เมื่อ 100 ปีก่อน ที่มีผลโต เนื้อสีชมพู รสหวาน หอม เปลือกบาง ซึ่งอยู่รวมกับผลไม้อื่น ๆ ทั้งทุเรียนพื้นบ้าน เงาะ ขนุน มะพร้าว ในเนื้อที่เกือบ 40 ไร่ โดยมีปลูกผักแบบปลอดสารไว้กินเองด้วย แต่เมื่อมีโอกาสได้ทำอาหารให้เพื่อนได้ลิ้มลอง และได้รับคณะของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และองค์กรต่าง ๆ บ้านสวนลางสาดจึงกลายเป็นอีกหนึ่งพิกัดร้านอาหารพื้นเมืองห้ามพลาด โดยมีเมนูเด็ดอย่างเส้นหมี่แกงกะทิเนื้อปูใบชะพลู หมูหวานสูตรของก๋ง รวมไปถึงเมนูที่ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ได้จากชาวประมงพื้นบ้าน

หากติดใจเมนูพื้นบ้าน และอาหารแบบปลอดสาร แนะนำให้ไปสนุกกับการทำอาหาร ที่ “The Nature Samui” ซึ่งเจ้าของร้านจะเริ่มต้นตั้งแต่พาเดินเก็บผักสด ๆ ที่ปลูกในรูปแบบเกษตรอินทรีย์ รับรองความปลอดภัยจากสารเคมีใด ๆ ก่อนจะมาร่วมปรุงเป็นข้าวยำปักษ์ใต้ เมนูสุขภาพที่ประกอบด้วยพืชผักสมุนไพรนานาชนิด หรือหากอยากจะแวะมาลิ้มลองอาหารอย่างเดียว มาที่นี่รับรองว่าได้ชิมอาหารปักษ์ใต้รสเด็ด ปลอดสาร ดีต่อสุขภาพแน่นอน

อิ่มท้องแล้วอย่าพลาดการออกไปตระเวนเที่ยวรอบเกาะสมุย เริ่มด้วย ถ่ายรูปและชมวิวที่ จุดชมวิวลาดเกาะ หนึ่งในทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดของสมุยที่สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา ทั้งยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามอีกแห่ง โดยมีวิวแปลกตาของหน้าผาหินที่ค่อย ๆ ลาดลงสู่ทะเล โดยมีคลื่นสาดกระทบฝั่งเป็นระยะ ๆ แต่จะแรงน้อยหรือแรงมากขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงฤดูกาล จุดชมวิวลาดเกาะอยู่ระหว่างหาดเฉวง และหาดละไม จากท่าเรือหน้าทอนเลี้ยวขวาบริเวณที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย ใช้ถนนทางหลวง 4169 ประมาณ 25.8 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาบริเวณริมถนน นอกจากจะมีการจัดทำทางเดินแล้วยังมีศาลาหลังคาเรือนปั้นหยาริมทะเล สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อนด้วย

อีกแห่งที่ห้ามพลาดคือ “หินตา หินยาย” ปรากฏการณ์ธรรมชาติของหินแกรนิตอันเกิดจากการกัดเซาะโดยนํ้าทะเลและความร้อนจนก่อเกิดเป็นโขดหินรูปร่างประหลาดบริเวณหาดละไมโดยมีเรื่องเล่าตำนานท้องถิ่นของตาเครงและยายเรียมชาวปากพนังที่จะเดินทางด้วยเรือใบไปสู่ขอลูกสาวของตาม่องลายที่ประจวบคีรีขันธ์ให้ลูกชาย แต่เมื่อแล่นมาถึงบริเวณอ่าวละไมเรือเกิดล่มทำให้ตาและยายเสียชีวิต ร่างทั้งสองถูกคลื่นซัดเกยหาดจนกลายเป็นหินอย่างที่เห็นในปัจจุบันมาช่วยเสริมเติมแต่ง ชมหินตาหินยายเสร็จแล้วอย่าลืม
ซื้อกะละแมชื่อดังของเกาะสมุยติดไม้ติดมือไปด้วย

แล้วไปชมบ้านโบราณและทำขนมพื้นบ้านที่ “พิพิธภัณฑ์บ้านโบราณ ณ สมุย” บ้านไม้โบราณที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมระหว่างจีนกับไทยเพราะบรรพบุรุษแรกเริ่มที่มาจากเกาะไหหลำซึ่งเดินทางมาค้าขายแล้วตัดสินใจลงหลักปักฐานที่สมุย สร้างมาตั้งแต่สมัยปลายรัชกาลที่ 3 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2380 โดยมีคนอาศัยอยู่ต่อเนื่องจากรุ่นสู่รุ่น แต่เพิ่งย้ายออกไปอยู่ที่อื่นเมื่อราว 10 ปีที่ผ่านมา หลังจากทายาทไม่อยู่วิสาหกิจชุมชนบ้านเลสมุย กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่จึงขออนุญาตเข้ามาดูแลและปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์และศูนย์การเรียนรู้ จุดเด่นของบ้านนอกจากรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีภาพแกะสลักไม้ใต้หลังคา หน้าต่างหลายชิ้นซึ่งล้วนแต่เกี่ยวเนื่องกับความเชื่อในเรื่องโชคลาภและความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ยังมีเครื่องใช้โบราณที่ส่งต่อมาถึงรุ่นหลังทั้งเตียง ตั่ง เซรามิก เครื่องทองเหลือง เตารีด ตะเกียง เชี่ยนหมาก ไฟแช็ก

นอกจากการเดินชมบ้านที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแล้ว ไฮไลต์อีกอย่างก็คือ การทำขนมโบราณอย่าง ขนมด้วง ซึ่งเริ่มตั้งแต่ขูดมะพร้าวทึนทึก ผสมแป้ง ใส่นํ้านวดให้เข้ากัน ก่อนจะปั้นเป็นลูกกลมแล้วนำมาคลึงเป็นเส้นพันไขว้กัน จากนั้นนำไปทอดให้เหลืองกรอบ แล้วนำขึ้นพักก่อนจะเคี่ยวนํ้าตาลทรายจนได้ที่ แล้วนำขนมด้วงที่พักไว้ลงไปคลุกจนเคลือบเป็นสีขาว

ต่อไปที่พิพิธภัณฑ์บ้านมะพร้าว ศูนย์รวมผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับมะพร้าวมีการจัดแสดงความรู้เกี่ยวกับมะพร้าว และการแปรรูปมาเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยใช้ทุกส่วนของมะพร้าวให้เกิดประโยชน์ตามภูมิปัญญาของชาวบ้านบนเกาะสมุย ที่มีกิจกรรม Workshop ขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมโค ขนมขี้มัน ขนมพระพาย ไปจนถึงนํ้ามันมะพร้าวแบบ Handmade ด้วย

อย่าลืมไปทำบุญ ไหว้พระ ณ“วัดพระใหญ่” ใกล้กับหาดบ่อผุดที่ตั้งอยู่บน “เกาะฟาน” เกาะเล็ก ๆ ที่ชาวบ้านสร้างสะพานไม้เชื่อมต่อในช่วงแรก แต่เนื่องจากมีอายุการใช้งานสั้นต่อมาจึงเปลี่ยนมาเป็นแนวสันเขื่อนหินแทน แม้ “พระใหญ่” หรือ “พระพุทธโคดม” จะไม่ใช่พระพุทธรูปโบราณแต่ก็เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชน และได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

ไปอีกแห่งที่ “วัดแหลมสุวรรณาราม” หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า“วัดปลายแหลม” วัดเก่าแก่ที่มีความสวยงามของสมุย ตั้งอยู่ที่บริเวณบ้านปลายแหลม ค่อนไปทางด้านทิศเหนือ ภายในมีรูปปั้นพระสังกัจจายน์ชาวจีนมักมากราบไหว้เพื่อขอให้รํ่ารวยและมีความสุขบางคนเชื่อว่าสามารถขอบุตรได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีเจ้าแม่กวนอิมพันมือสูง 20 เมตร อยู่กลางสระนํ้า แหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ยังมี “วัดเจดีย์แหลมสอ” และ “ศาลเจ้ากวนอู” ด้วย

ยามเย็นไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน Fisherman Village อดีตชุมชนชาวประมงเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยร้านอาหารสองข้างทาง และร้านจำหน่ายของที่ระลึก มาไวหน่อยจะได้ชมพระอาทิตย์ตกริมทะเล ต่อด้วยการแสดงโชว์กระบองไฟหลังแสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า

มีเวลาขึ้นไปชมวิวสูงที่ “The Roof Samui” ที่ได้ชื่อว่าเป็นหลังคาของสมุย สามารถชมวิวสมุยได้แบบ180 องศา มองเห็นทั้งวิวเกาะ หาด อ่างเก็บนํ้าพลุเฉวง สนามบิน หรือชอบวิวทะเลแนะนำที่ “SEA SUN Samui” อยู่ไม่ไกลจากวัดพระใหญ่ มีทั้งอาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่มหลากหลายเมนู.