สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ว่า นับตั้งแต่รัสเซียส่งทหารหลายหมื่นนายเข้าไปในยูเครน เมื่อเดือน ก.พ. 2565 สงครามส่วนใหญ่ก็เต็มไปด้วยการโจมตีจากปืนใหญ่และโดรน ตามแนวรบที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนา ความยาวประมาณ 1,000 กิโลเมตร

ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการพัฒนาโดรน และแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของโดรน ที่มีต่อสงครามสมัยใหม่ ตั้งแต่การจัดการทหารราบ และการรวบรวมข่าวกรอง ไปจนถึงการทำลายโครงสร้างพื้นฐาน และการโจมตีคลังแสง

“ในปี 2566 รัสเซียส่งมอบอากาศยานไร้คนขับ (ยูเอวี) ประเภทต่าง ๆ ให้กับกองทัพ รวมประมาณ 140,000 ลำ แต่ในปีนี้ เรามีแผนที่จะเพิ่มการผลิตโดรนอย่างมีนัยสำคัญ อีกเกือบ 10 เท่า” ปูติน กล่าวในการประชุมที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

อนึ่ง รัสเซียและยูเครน ต่างซื้อโดรนจากต่างประเทศ และเพิ่มการผลิตโดรนของตนเองในประเทศ ซึ่งคลิปวิดีโอจากโดรน เผยให้เห็นถึงความน่ากลัวของสนามรบ รวมถึงการโจมตีอย่างรุนแรงต่อทหารราบ, ปืนใหญ่ และรถถัง

ทั้งนี้ทั้งนั้น ปูตินกล่าวว่า รัสเซียมีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีโดรน “เกือบทุกสัปดาห์” และจำเป็นต้องพัฒนาระบบป้องกันโดรน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ตรวจจับ สร้างความสับสน และจัดการกับโดรนโจมตีของอีกฝ่าย

“ภารกิจสำคัญคือ การผลิตยูเอวีหลายประเภท เพื่อสร้างการผลิตแบบต่อเนื่องให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ปูติน กล่าวทิ้งท้าย.

เครดิตภาพ : AFP