เมื่อวันที่ 20 ก.ย. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมตำรวจสืบสวนนครบาล ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นางสาวสุนทรี (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1262/2567 ลงวันที่ 16 ก.ย. 67 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” โดยจับกุมได้ที่หน้าบ้านพักพื้นที่ ต.บางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก ผู้เสียหายถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่จากค่ายมือถือชื่อดัง แจ้งว่ามีคนนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหายไปเปิดบัญชีธนาคารเพื่อทำเป็นบัญชีม้า ก่อนจะโอนสายให้คุยกับคนในแก๊งเดียวกัน โดยอ้างว่าเป็น ตำรวจ สภ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร เพื่อหลอกให้ผู้เสียหายติดต่อผ่านไลน์ ก่อนจะขอตรวจสอบเส้นทางการเงิน และให้โอนเงินจำนวน 106,482.25 บาท มาให้ตรวจสอบ ทางฝ่ายผู้เสียหายหลงเชื่อโอนไปให้ทั้งหมด ก่อนที่อีกฝ่ายจะหายเงียบติดต่อไม่ได้ เชื่อว่าถูกหลอกจึงแจ้งความกับตำรวจ ภายหลังพบว่าบัญชีที่ผู้เสียหายโอนให้ เป็นของ น.ส.สุนทรี เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปจับกุมดังกล่าว

จากการสอบสวน น.ส.สุนทรี ให้การปฏิเสธอ้างว่า เมื่อประมาณปี 2566 เห็นคนประกาศผ่านเฟซบุ๊กว่า หาคนรับจ้างเปิดซิม เปิดบัญชี ลงทุนขายของออนไลน์ ผู้ต้องหาเห็นว่าได้เงิน จึงได้ทักแชตพูดคุยสมัครไปทางเฟซบุ๊กที่ประกาศ ไม่รู้ว่าจะถูกนำเอาไปใช้เป็นบัญชีม้า ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ขอฝากเตือนไปยังประชาชนถึงพฤติการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลโกงของคนร้าย จะโทรฯ หาผู้เสียหายอ้างว่าโทรฯ จากธนาคาร หรือไปรษณีย์ไทย หรือสรรพสามิต หรือเครือข่ายค่ายโทรศัพท์มือถือ บอกว่า มียอดค้างชำระบัตรเครดิตบ้าง ไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดบ้าง ซึ่งส่วนมากเหยื่อจะบอกว่าไม่รู้เรื่อง จากนั้นจะให้แอดไลน์คุยกับคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวหาว่ามีการฟอกเงิน เงินผิดกฎหมาย เพื่อหลอกให้โอนเงินไปให้ตรวจสอบ เมื่อโอนไปแล้วก็จะตัดขาดการติดต่อ หรือไม่ก็หลอกให้โอนไปเรื่อย ๆ

“….ข้อควรระวังก็คือ ไม่มีหน่วยงานใด ๆ หรือเจ้าหน้าที่รายใด โทรศัพท์ให้โอนเงินตรวจสอบ เพราะหากมีการตรวจสอบจริง เจ้าหน้าที่สามารถติดต่อประสานกับทางธนาคารตามขั้นตอนกฎหมายได้ ดังนั้น ถ้ามีสายจากเจ้าหน้าที่โทรฯ มาให้โอนเงิน อย่าโอนเด็ดขาด!!…” พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าว.