คณะรัฐมนตรีของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อนุมัติตามที่กระทรวงการคลัง เสนอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 67 (ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 1) ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ โดยจะจ่ายเงินสดให้กับกลุ่มเป้าหมายคือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 12.40 ล้านคน และคนพิการ 2.15 ล้านคน จำนวน 10,000 บาทต่อคน
โดยจะทยอยจ่ายเป็นเงินสดเข้าบัญชีคนทั้งสองกลุ่ม (ประมาณ 14.55 ล้านบัญชี) ตั้งแต่วันที่ 25,26,27 และ 30 ก.ย.นี้ เพื่อเอาไปจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิต โดยไม่จำกัดประเภทร้านค้า เพื่อปลุกกำลังซื้อ และกระตุ้นเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 67
คาดว่าการมีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 1.45 แสนล้านบาท จะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.35 ต่อปี เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการดังกล่าว
ส่วนเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 2 นายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง ยืนยันว่ามีอย่างแน่นอน สำหรับคนที่ลงทะเบียนไว้กับแอปทางรัฐและคนที่ไม่มีสมาร์ตโฟน โดยหลังจากนี้จะตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่เพื่อหารือและกำหนดรายละเอียดว่าจะจ่ายอย่างไร เมื่อไหร่ ด้วยวิธีไหน
“พยัคฆ์น้อย” ทราบว่าหลังจากปิดการลงทะเบียนรับเงินดิจิทัลวอลเล็ตผ่านแอปทางรัฐ เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา มีคนลงทะเบียนกว่า 36.41 ล้านคน โดยจะต้องตรวจสอบคุณสมบัติของคนลงทะเบียนว่าถูกต้องตามเงื่อนไขหรือไม่ รายชื่อต้องไม่ซ้ำซ้อนกับดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 1
มาถึงตรงนี้ “พยัคฆ์น้อย” ก็ต้องขอฝากไปยังพี่น้องกลุ่มคนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ รวมกันประมาณ 14.55 ล้านคน ว่านี่ไม่ใช่การ “สังคมสงเคราะห์” ไม่ใช่การแจกคนละ 500-1,000-2,000 บาท แบบ “หยอดน้ำข้าวต้ม” เหมือนที่ผ่านมา
แต่นี่แจกคนละ 10,000 บาท ถือเป็นเงินก้อนใหญ่ ที่รัฐบาลแจกให้ถึงมือประชาชนโดยตรง แค่ครั้งเดียวเท่านั้น เพื่อให้ไปจับจ่ายใช้สอยในสิ่งที่สำคัญต่อการดำรงชีวิต เพื่อช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศที่ยังซึม ๆ ต่อเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 กว่าเงินก้อนนี้จะไปถึงมือประชาชน รัฐบาลต้องผ่านขวากหนามมากมาย ผ่านแรงต้าน! จากคนและหน่วยงานที่เขาไม่เห็นด้วยกับการแจกเงิน
ดังนั้นเมื่อได้เงิน 10,000 บาทไปแล้ว ก็ต้องจับจ่ายใช้สอยในสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีพ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับระบบเศรษฐกิจของประเทศ
โดยเฉพาะภาคการผลิตและการจ้างงาน อย่าเอาไปเล่นหวยกันหมด อย่าเพิ่งเอาไปใช้ “หนี้นอกระบบ” ส่วนเจ้าหนี้นอกระบบก็อย่ารีบมาปล้น! เงินหมื่นไปจากมือคนจน!
ขอฝาก! นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ในฐานะว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ และพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร.
ท่านต้องช่วยกันกำชับผู้ว่าราชการจังหวัด-นายอำเภอ-ตำรวจทั่วประเทศ ให้ควบคุมอย่างเข้มงวดกับ “เจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ” อย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเงินหมื่นก้อนนี้!!
…………………………………….
พยัคฆ์น้อย
