เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่าย วันที่ 17 ก.ย. 67 ที่ผ่านมาพ.ต.ท.นนทสิทธิ์ พงษ์ศิริกรกุล สว.(สอบสวน) สภ.บางน้ำเปรี้ย สภ.วังน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา รับแจ้งอุบัติเหตุไฟลุกไหม้สีผู้เสียชีวิตติดภายใน บริเวณริมถนนสุวินทวงศ์ หมู่ 14 ต.ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.บางน้ำเปรี้ยว และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา ที่เกิดเหตุหน้าร้านอาหารรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 85-5873 ฉะเชิงเทรา สภาพมีรอยชนด้านหน้าและเพลิงไหม้พังยับเยิน พบศพ นายปรีชา กมลรักษ์ อายุ 54 ปี สภาพถูกไฟเผาตามลำตัวและช่วงท้อง ติดอยู่ภายในจึงใช้เครื่องตัดถ่างนำศพออกมา

ใกล้กันยังพบรถยนต์ได้รับความเสียหายอีก 3 คันก่อนพุ่งชนร้านอาหารพังเสียหาย ประกอบด้วย รถฮอนด้า บริโอ้ สีขาว ทะเบียน ขง 8707 พระนครศรีอยุธยา ของ น.ส.วรรณิศา นุ่มประเสริฐ อายุ 26 ปี / รถกระบะโตต้า รีโว้ สีเทา-ดำ ทะเบียน 4 ขค 3536 กรุงเทพมหานคร ของนายสมชาย แพลา อายุ 55 ปี และรถโตโยต้า วีออส สีบอร์น-เทา ทะเบียน กจ 9117 ฉะเชิงเทรา ของนายธนัสพงษ์ วรพิพัฒน์ อายุ 24 ปี เจ้าของร้านได้รับความเสียหาย ทั้ง 3 คัน นอกจากนี้เสาไฟแรงสูงที่หน้าร้านได้หักโค่นลงมา ทำให้ไฟดับเป็นวงกว้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเกิดเหตุ พลเมืองดีเห็นเหตุการณ์รีบเอาชะแลงงัด นำคนขับรถบรรทุกพ่วงออกมาจากรถ เนื่องจากมีกลุ่มควันลอยออกมา จากนั้นไม่นานเกิดเปลวเพลิงลุกไหม้ หัวรถบรรทุกซึ่งมีถังก๊าซจำนวนมากจึงต้องรีบกระชากร่างคนขับที่ขาอัดติดคาพ่วงมาลัยออกมาจากรถ แต่ดึงยังไงก็ไม่ออกต้องยอมทิ้งร่างคนขับถูกไฟคลอกเสียชีวิตคาพวงมาลัย ขณะที่แรงชนทำให้รถที่จอดอยู่หน้าร้านอาหารพังเสียหายไป 3 คัน ส่วนคนขับรถแก๊สต้นเหตุเดินตีมึนไม่รู้ว่ามีกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า รถบรรทุกพ่วงพยายามหลบอะไรสักอย่างก่อนเสียหลักพุ่งตกข้างทางชนพินาศดังกล่าว

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุพบภาพนาทีที่รถบรรทุกแก๊สเบียดรถบรรทุกสิบล้อ จนรถบรรทุกพ่วงสิบแปดล้อเสียหลักพุ่งเข้าไปในร้านขายอาหาร จนรถที่จอดอยู่หน้าร้านได้รับความเสียหาย แรงกระแทกทำให้เสาไฟแรงสูงหัก จนเกิดประกายไฟ ก่อนพุ่งเข้าร้านอาหาร ส่วนคนขับรถพ่วงสิบแปดล้อหมดสติอยู่ภายในรถ ชาวบ้านพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ต่างวิ่งออกมาช่วย นำชะแลงมางัดประตูรถ เพราะขณะนั้นเริ่มมีกลุ่มควันลอยออกมาจากหน้ารถ ชาวบ้านบางส่วนหาน้ำพยายามสาดเข้าไปหวังดับไฟ แต่ไฟเริ่มปะทุขึ้น โหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวบ้านพลเมืองดี ต้องเปลี่ยนวิธีรีบดึงร่างคนขับรถพ่วงสิบแปดล้อออกมา แต่ก็ดึงไม่สำเร็จ บริเวณช่วงขาคนขับรถอัดติดตาพ่วงมาลัย เปลวเพลิงเริ่มโหมลุกไหม้ลามมาถึงคนขับรถพ่วงสิบแปดล้อ จนพลเมืองดีต้องถอยออกพยายามดับเพลิงจนดับ ส่วนคนขับรถพ่วงเสียชีวิตถูกไฟเผาครึ่งตัวช่วงล่างดังกล่าว

นายธนัสพงษ์ เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า รถที่จอดอยู่หน้าร้านเป็นรถของลูกค้า ที่ลงมาจากรถได้ไม่นานได้รับความเสียหาย 2 คัน ส่วนอีกคันเป็นรถตน เบื้องต้นทราบจากชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ว่า รถทั้งสองคันขับตีคู่เบียดกันมา ก่อนรถบรรทุกพ่วงสิบแปดล้อจะเสียหลักเข้าซ้ายพุ่งเข้ามาชนรถที่หน้าร้านของตน ก่อนพุ่งชนเสาไฟจนหัก จนมีประกายไฟลุกไหม้ร่างของคนขับจนเสียชีวิต

น.ส.วรรณิศา เจ้าของรถเก๋งเปิดเผยว่า ตนเองขับรถมาเที่ยวที่ฉะเชิงเทรา และกำลังจะขับรถกลับบ้านที่ กทม. ระหว่างทางปู่หิวข้าว จึงชวนกันหาร้านอาหารเพื่อนั่งกินข้าว ซึ่งโชคดีมากที่คนในครอบครัวลงมาจากรถทั้งหมด จึงไม่มีใครเป็นอะไร ซึ่งตนเองจอดรถได้ไม่นาน สั่งอาหารยังไม่มาเสิ์ฟ ก็ได้ยินเสียงชนดังสนั่น พอหันไปดูก็พบว่ารถบรรทุกพ่วงกวาดรถที่จอดอยู่หน้าร้านไปหมด รวมถึงรถของตนเองด้วย รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะที่ คนขับรถบรรทุกแก๊สคู่กรณี อายุ 58 ปี ที่ไม่ทราบว่ามีกล้องวงจรปิดจับภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ เดินเข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า รถบรรทุกพ่วงสิบแปดล้อ น่าจะหักหลบอะไรสักอย่างด้านหน้ามาก่อนหน้านี้ และคิดว่ารถบรรทุกพ่วงจะจอด แต่รถบรรทุกพ่วงก็เสียหลักรูดลงไปทางด้านซ้าย ตนขับตามหลังรถบรรทุกพ่วงสิบแปดล้อมา จึงเห็นเหตุการณ์ว่ารถพ่วงเสียหลักพุ่งเข้าไปที่ร้านขายอาหาร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบวงจรปิดไม่ตรงตามที่ คนขับรถบรรทุกแก๊สให้การ จึงเชิญตัวไปทำการสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมรวบรวมหลักฐานหลายๆ มุมมาประกอบสำนวนคดี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนร่างของนายปรีชา ผู้เสียชีวิต ได้มอบร่างให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลบางน้ำเปรี้ยว ทำการชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนจะมอบร่างให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป