เมื่อวันที่ 17 ก.ย. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เผยผลการจับกุม นายศักดิ์ชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ชาว อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ตามหมายจับ 2 หมาย ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 787/2567 ลงวันที่ 4 ก.ย. 67 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น” และ ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง (สาขามีนบุรี) ที่ 5/2566 ลงวันที่ 14 มี.ค. 66 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนหรือรับของโจร”

โดยชุดจับกุมประกอบด้วย พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย ร.ต.อ.พิชชากร กองสวัสดิ์, ร.ต.อ.พงศธร อารีย์ รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น., ด.ต.ประเทศ ช่อลำเจียก, จ.ส.ต.ภานุพงศ์ เวฬุวนารักษ์, จ.ส.ต.อวิรุทธ์ เนียมบุญเจือ, จ.ส.ต.นิติสิทธิ์ โชติคุต, ส.ต.อ.พลภัทร ปรีชา ผบ.หมู่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 3 ซึ่งจับได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในซอยไทยธานี 16 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

สืบเนื่องจากคนร้ายโทรศัพท์เข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างเป็นตำรวจ สภ.เมืองชุมพร แจ้งผู้เสียหายว่ามีพัสดุจากบริษัทแห่งหนึ่ง ไม่ทราบว่าเป็นของผู้ใด ตรวจสอบพัสดุพบ หนังสือเดินทาง, บัตรเอทีเอ็ม, พร้อมสมุดธนาคาร ซึ่งมีชื่อของผู้เสียหายปรากฏอยู่ แล้วอ้างว่าผู้เสียหายอาจจะมีส่วนพัวพันเกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพ ระหว่างนั้นได้มีการเพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์ชื่อ “สภ.เมืองชุมพร” แล้ววิดีโอคอลมาหาผู้เสียหาย โดยมีการแต่งกายด้วยเครื่องแบบตำรวจ แล้วแสดงตัวว่าเป็นตำรวจยศ พ.ต.ท. ประจำอยู่ สภ.เมืองชุมพร ให้ผู้เสียหายแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยการโอนเงินมาเพื่อทำการตรวจสอบ แล้วจะโอนเงินกลับคืนมาภายใน 2 วัน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปหลายครั้งรวมยอด ทั้งหมด 2,121,015 บาท ต่อมาผู้เสียหายรู้ตัวว่าโดนหลอกจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.สำโรงเหนือ และตำรวจสืบนครบาล กก.สส.3 บก.สส. บช.น. สามารถจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การว่า มีพี่ที่รู้จักกันชักชวนไปทำงานกาสิโนที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา และถูกชักชวนให้เปิดบัญชีธนาคารแบบออนไลน์ รวมทั้งสิ้นจำนวนประมาณ 5 บัญชี ได้ค่าตอบแทน 18,000 บาท ต่อมาไม่นานตนได้เดินทางกลับมาไทย หลังการสอบสวน ตำรวจชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.สำโรงเหนือ เพื่อดำเนินคดีต่อไป.