เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2567 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ขู่ฟ้องนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ผู้จัดรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ และสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 MCOT ต่อศาลอาญาในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และฟ้องศาลแพ่งให้เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท หลังจากนายดนัยปล่อยคลิปเสียงหลุดคล้าย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โดยในคลิปเสียงหลุดนั้นได้มีการเรียกรับเงิน อีกทั้ง ได้เผยแพร่ออกมาจากทางรายการ ฯ โดย นายไพบูลย์ อ้างว่าเป็นคลิปที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า การที่นายไพบูลย์ออกมาปกป้องโดยการฟ้องสื่อ ที่กำลังทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริต เท่ากับว่านายไพบูลย์ยอมรับว่าเป็นคลิปเสียงของ พล.อ.ประวิตร จริง ไม่ใช่การทำ AI ขึ้นมา

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า วันนี้นายไพบูลย์กำลังแก้เกี้ยวเพื่อปิดปากสื่อ ไม่ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบทุจริตไม่กล้าสู้ความจริง และกำลังปิดหู ปิดตา ประชาชนและสังคม ทั้ง ๆ ที่หน่วยงานของรัฐ ออกมารณรงค์ให้ช่วยกันป้องกันและป้องปรามการทุจริต วาระการตรวจสอบการทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันในการตรวจสอบ เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และเพื่อผลประโยชน์ของชาติและประชาชน ใครไม่ช่วยคลี่คลายหรือขัดขวางการทำข้อมูลที่ปรากฏในคลิปให้กระจ่าง ถือว่าไม่มีจิตสาธารณะหรือไม่ ที่จะป้องปรามการทุจริตประพฤติมิชอบหรือไม่ นายดนัยประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนมานานกว่า 30 ปี ไม่ได้เป็นนักการเมือง จึงไม่มีเหตุอะไรที่จะต้องมากล่าวหา ใส่ความเท็จ พล.อ.ประวิตร ที่สำคัญคนระดับนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดมหาดไทย ก็ออกมายอมรับแล้วว่าเป็นเสียงจริง

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า ขอให้นายไพบูลย์ไปตรวจสอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 35 และคำพิพากษาศาลฎีกา 3782/2564 ที่มีการคุ้มครองสิทธิของสื่อ และประชาชน ในการแสวงหาพยานหลักฐาน เรื่องการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและทุจริต เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร เป็นบุคคลสาธารณะที่เป็นถึงอดีตรองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ปัจจุบันเป็น สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ สิ่งที่นายไพบูลย์ควรทำในเวลานี้คือ ควรไปสืบหาความจริงว่า พล.อ.ประวิตร รับเงินจาก ”โอ๋“ จริงหรือไม่ แทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย โดยหวังผลเรื่องการได้งบประมาณแผ่นดินจริงหรือไม่ แล้วมาแจ้งให้ประชาชนรับทราบ และที่สำคัญ

”ผมขอแนะนำนายไพบูลย์ควรไปตรวจสอบคนใกล้ชิดลุง ว่ามีบริวารเป็นพิษหรือคนใกล้ชิดทรยศหักหลังหรือไม่ ทำความสะอาดในพรรคตัวเองก่อน ตามหาตัวคนแอบอัดคลิปว่ามีบริวารคนไหน เป็นพิษ เป็นไอ้โม่ง คลายปมสงสัยให้ประชาชนที่กำลังติดตามข่าวนี้ ดีกว่ามาไล่ฟ้องสื่อ ถ้าทำไม่ได้ก็ควร พิจารณาตัวเอง ลาออกจากเลขาฯพรรคไปเถอะ อย่าโยนบาปให้คนอื่น หมดยุค สว.ลากตั้ง และองค์กรอิสระทั้งหลาย กำลังผลัดใบบ้านเมืองเข้าสู่ยุคประชาธิปไตย ไม่ใช่ยุคเผด็จการทหารแล้ว ตนเชื่อว่าหน่วยงานทุกองค์กรอิสระต้องสร้างความกระจ่าง และนำความจริงสู่สังคม” นายพร้อมพงศ์ กล่าว