เมื่อวันที่ 13 ก.ย. รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant โดยระบุว่า “ผลดีเอ็นเอ ยืนยัน “ปลาหมอคางดำ ที่ระบาดในไทย” มีต้นกำเนิดมาจากแถบประเทศ กานา-โกตดิวัวร์ ครับ

มีความคืบหน้าล่าสุด เกี่ยวกับ ผลการตรวจ DNA เพื่อหาต้นตอของปลาหมอคางดำ ที่ระบาดในประเทศไทย มาเล่าให้ฟังกันครับ

#โดยสรุป : ลำดับพันธุกรรมจาก DNA ขอตัวอย่างปลาหมอคางดำที่ระบาดในประเทศไทย เมื่อเปรียบเทียบกับปลาหมอคางดำที่พบในประเทศต่างๆ ของทวีปแอฟริกา มีความใกล้เคียงกับที่พบในประเทศกานา และประเทศโกตดิวัวร์ (ไอเวอรีโคสต์) ครับ

1.เรื่องนี้ เริ่มจากตอนที่ผมได้ไปเป็นที่ปรึกษา ของคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ปัญหา รวมถึงผลกระทบ จากการนำเข้าปลาหมอคางดำเพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย ของรัฐสภา จะได้เข้าร่วมประชุม ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ซึ่งมีท่านอธิบดีกรมประมงและคณะ มาชี้แจง

– โดยประเด็นในวันนั้นคือ ความพยายามที่จะถามหาถึง DNA ของตัวอย่างลูกปลาหมอ (สี) คางดำที่บริษัทเอกชนรายหนึ่งนำเข้ามาในอดีต จากประเทศกานา เพื่อที่จะนำไปเปรียบเทียบกับ DNA จากปลาหมอคางดำที่พบอยู่ในแหล่งน้ำปัจจุบัน ว่ามีลำดับพันธุกรรมตรงกันหรือไม่

– ซึ่งสุดท้ายแล้ว ก็ไม่สามารถหาตัวอย่างของลูกปลาหมอคางดำของบริษัทดังกล่าว มาเปรียบเทียบได้ เนื่องจากถูกฝังกลบทำลายไปหมดแล้ว หลังจากอ้างว่าลูกปลาได้ตายไปหมดในเวลาไม่กี่เดือนหลังจะนำเข้ามาหา .. ส่วนตัวอย่างปลาที่อ้างว่าส่งให้กรมประมงไปเก็บรักษานั้น ก็ไม่สามารถหาพบ

– ผมจึงเสนอในที่ประชุมว่า เราน่าจะสามารถเอาลำดับ DNA ของปลาหมอคางดำที่พบในประเทศต่างๆ หลายประเทศของทวีปแอฟริกา มาเทียบกับลำดับ DNA ของปลาที่พบในไทยในปัจจุบันได้ อย่างน้อยก็ช่วยระบุว่า มันมาจากประเทศไหน?

2.ทางกรมประมงได้รับข้อเสนอของผมไปพิจารณา เนื่องจากว่าเคยมีการเก็บตัวอย่างแล้ววิเคราะห์ลำดับ DNA ของปลาหมอคางดำในประเทศไทย มาก่อนหน้านี้แล้ว

– โดยที่ก่อนหน้านี้นั้น กรมประมงเคยเผยแพร่ผลงานวิจัย DNA ของปลาหมอคางดำในประเทศไทยมา 2 ฉบับ ได้แก่ 1. ความหลากหลายทางพันธุกรรมกับพันธุปฏิทรรศน์ของการระบาดปลาหมอสีคางดำในประเทศ (ปี พ.ศ. 2563) และ 2. การวิเคราะห์เส้นทางการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดําในเขตพื้นที่ชายฝั่งของไทยจากโครงสร้างพันธุกรรมของประชากร (ปี พ.ศ. 2565)

– ผลการวิจัยดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ตัวอย่างจากประชากรปลาหมอคางดำจากพื้นที่แพร่ระบาด 7 จังหวัด มีความคล้ายคลึงกัน และมีการแพร่กระจายอยู่ 2 ลักษณะคือ 1.จากคลองที่เชื่อมต่อกัน และ 2.จากการขนส่งเคลื่อนย้ายโดยมนุษย์ เพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่ แล้วเกิดการหลุดรอด จนแพร่กระจายเป็นหย่อมๆ ไม่มีคลองเชื่อมต่อถึงกัน

– แต่ผลการทดลองนั้น ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า น่าจะมีการนำปลาหมอสีคางดำเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เพียงครั้งเดียว หรือหลายครั้ง กันแน่ .. และมีการดึงตัวอย่างข้อมูลพันธุกรรม (จาก mitochondrial DNA ส่วน D-loop) จากต่างประเทศมาเปรียบเทียบ เพียงแค่ตัวอย่างเดียว จึงทำให้บอกแหล่งที่มาต้นทางของประชากรปลาหมอคางดำในประเทศไทยได้ลำบาก

3.ต่อมาไม่นาน มีข่าวว่าทางกรมประมงจะทำเรื่องขอตัวอย่าง DNA ปลาหมอคางดำ จากประเทศกานา เพิ่มเติม มาทำการวิเคราะห์ ซึ่งจะต้องใช้เวลารออีกระยะหนึ่ง

– ผมถึงดำเนินการลงมือเก็บรวบรวมลำดับพันธุกรรมของปลาหมอคางดำในประเทศต่างๆ ในทวีปแอฟริกา จากฐานข้อมูล GenBank – NCBI ของต่างประเทศ มาทำการวิเคราะห์พื้นฐาน และนำส่งให้กับกรมประมง เพื่อให้นักวิจัยของกรมฯ ได้นำไปเปรียบเทียบกับลำดับพันธุกรรมที่มีอยู่เดิม (ซึ่งไม่ได้เปิดเผยให้กับสาธารณะ ทำให้ผมไม่สามารถดึงข้อมูลมาวิเคราะห์เองได้)

– ผลการวิเคราะห์สร้างแผนภูมิต้นไม้วิวัฒนาการ (phylogenetic tree) ด้วยวิธี neighbor- joining (NJ) จากตัวอย่าง สาย DNA ของปลาหมอคางดำ 6 ประเทศ เป็นจำนวนกว่า 40-50 สาย พบว่า พันธุกรรมของปลาหมอคางดำในทวีปแอฟริกานั้น แบ่งเป็น 2 กลุ่มประชากรอย่างชัดเจน คือ กลุ่มย่อยของ 4 ประเทศที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตก ได้แก่ มอริเตเนีย, เซเนกัล, เซียร์ราลิโอน, ไลบีเรีย และ กลุ่มย่อยของ 2 ประเทศที่อยู่ทางด้านทิศตะวันออก ได้แก่ โกตดิวัวร์ (หรือชื่อเดิม ไอเวอรีโคสต์) และ ประเทศกานา

4.ล่าสุด นักวิจัยของกรมประมงได้ทำการศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์ลำดับพันธุกรรม mitochondrial DNA ส่วน D-loop ของปลาหมอคางดำ เปรียบเทียบกันระหว่าง ลำดับพันธุกรรมของตัวแทน haplotype กลุ่มประชากรปลาของ 6 จังหวัดในประเทศไทย และทวีปแอฟริกาแล้ว ได้ผลดังนี้

– ข้อมูลที่ได้ออกมานั้น มีลำดับตรงกัน 372 คู่เบส ที่จะนำไปใช้ศึกษาต่อ .. ทำให้ต้องตัดลำดับที่เคยเก็บได้ในประเทศไทย อีก 78 คู่เบส (21% ของทั้งหมด) ทิ้งไป เนื่องจากยาวกว่าลำดับของปลาจากฐานข้อมูล

– พบว่า ค่าความแตกต่างพันธุกรรม (genetic distance) เฉลี่ย จากกลุ่มตัวอย่างของ 6 จังหวัดของประเทศไทย มีค่าน้อยกว่า ค่าเฉลี่ยจากตัวอย่างของแต่ละประเทศในทวีปแอฟริกา เป็นอย่างมาก (คือ 0.0033 เทียบกับ 0.0078-0.035)

#ผลลัพธ์ phylogenetic analysis

– พบว่าตัวอย่างปลาหมอคางดำที่เก็บจาก 6 จังหวัดที่มีรายงานการระบาดในช่วงปี 2560 ถึง 2564 ถูกจัดอยู่ในกลุ่มย่อยเดียวกัน กับตัวอย่างจากประเทศกานาและโกตดิวัวร์ .. โดยมีค่าความเชื่อมั่นของกิ่งรวม บนแผนภูมิต้นไม้นี้ ตามการวิเคราะห์แบบ boostrap ในเกณฑ์ค่อนข้างสูง คือมากถึง 70%

– แม้ว่าลักษณะของแผนภูมิต้นไม้ NJ tree จะบอกว่า พันธุกรรมของปลาจากประเทศไทยน่าจะมีความใกล้ชิดกับปลาในประเทศกานา มากกว่าจะประเทศโกตดิวัวร์ แต่ค่าความเชื่อมั่น bootstrap ในกิ่งย่อยๆ ของแผนภูมิต้นไม้ ภายในกลุ่มย่อย “กานา-โกตดิวัวร์-ไทย” นี้ มีค่าต่ำมาก ทำให้ไม่สามารถยืนยันคำตอบได้ว่า มีต้นกำเนิดมาจากประเทศกาน่าเท่านั้น

#โดยสรุป : ลำดับพันธุกรรมจาก DNA ขอตัวอย่างปลาหมอคางดำที่ระบาดในประเทศไทย เมื่อเปรียบเทียบกับปลาหมอคางดำที่พบในประเทศต่างๆ ของทวีปแอฟริกา มีความใกล้เคียงกับที่พบในประเทศกานา และประเทศโกตดิวัวร์ (ไอเวอรีโคสต์) แต่ข้อมูลยังไม่มากเพียงพอ ที่จะฟันธงได้ว่ามีต้นกำเนิดมาจากประเทศกาน่าประเทศเดียวครับ

และแม้ว่าจะทำให้ประเด็นต้นกำเนิดที่มาของปลาหมอคางดำในประเทศไทยนั้น สโคปแคบลงไปได้มาก แต่ก็ไม่ได้เป็นการฟันธงเช่นกัน ว่าจะต้องมาจากบริษัทดังกล่าวบริษัทเดียวเท่านั้น เนื่องจากอาจมีบริษัทอื่นที่ลักลอบนำเข้าปลาจากทวีปแอฟริกาอีก แต่ไม่แจ้งขออนุญาต ก็เป็นไปได้

ป.ล. โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า ถ้าผมได้ข้อมูลพันธุกรรมปลาหมอคางดำในประเทศไทย จากกรมประมง มาวิเคราะห์เองด้วย ด้วยวิธีวิเคราะห์แบบอื่นๆ ก็อาจจะได้คำตอบที่ชัดเจนขึ้นกว่านี้อีกหน่อยครับ”