เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ผลต่อเนื่องจากพายุยางิ ที่มีฝนตกในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยที่จังหวัดเชียงราย มีน้ำท่วมอย่างหนัก ขณะที่ภาคอีสานโดยเฉพาะพื้นที่ จ.เลย มีฝนตกติดต่อกันหลายวัน และมีระดับน้ำโขงที่มีปริมาณน้ำจำนวนมาก จากเขื่อนในประเทศจีนและลาว ที่ปล่อยน้ำออกมา ทำให้กระทบต่อระดับน้ำในแม่น้ำโขง จนเอ่อล้นตลิ่งริมโขง บริเวณ อ.เชียงคาน และ อ.ปากชม ประชาชนเริ่มได้รับผลกระทบ

ส่วนสถานการณ์แม่น้ำโขง จากอุทกวิทยาที่ 2 เลย สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 3 (อุดรธานี) สถานีวัดระดับน้ำแม่น้ำโขง ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย เวลา 07.00 น. วันนี้ = 15.61 ม. เวลา 07.00 น. เมื่อวาน = 13.76 ม. เพิ่มขึ้น = 1.85 ม. ต่ำกว่าระดับวิกฤติ 16.00 ม. = 0.39 ม. (ระดับวิกฤติ รทก.= 210.118 ม.) ระดับตลิ่ง = 19.19 ม. ล่าสุดเช้านี้ อ.ปากชม ช่วงที่ตลิ่งต่ำกว่าพื้นที่ และ อ.เชียงคาน
ระดับน้ำโขงเอ่อล้นตลิ่ง บริเวณบ้านคกไผ่ ที่มีชาวบ้านตั้งร้านริมตลิ่งแม่น้ำโขง เข้าท่วมกระต๊อบริมน้ำ จมมิดหลังคาหลายหลัง และน้ำกำลังเอ่อขึ้นมาที่ริมถนนทางเดินริมน้ำ และเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมตลิ่ง

นายยศวัฒน์ พัชระศักดิ์สกุล นายอำเภอปากชม เผยว่าในช่วงเช้านี้ ถ้าเปรียบเทียบกับระดับในช่วงเย็นเมื่อวานที่ผ่านมา ระดับน้ำเพิ่มขึ้นบ้างนิดหน่อย แต่เพิ่มต่อเนื่อง และขณะนี้ได้รับการประสานจากเขื่อนไซยะบุรี น้ำจากต้นเขื่อนได้มีปริมาณน้ำที่อาจจะมากขึ้น และมีปริมาณน้ำที่คาดว่าจะมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเป็นเช่นนั้น จะมีบ้านเรือนของประชาชน และร้านค้าริมน้ำโขง ส่วนใหญ่จะเป็นจุดที่น้ำโขงขึ้น มักจะถูกน้ำท่วมซ้ำซาก บริเวณด่านคกไผ่ ซึ่งจะเป็นพื้นที่มีแพ มีซุ้มร้านอาหารของชาวบ้าน ส่วนใหญ่จะอยู่จุดที่ต่ำกว่าตลิ่ง

ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้สูงอายุออกจากพื้นที่โดยด่วน และได้เตรียมกระสอบทรายไว้ เบื้องต้น 1,000 ลูก โดยนำมาเรียงตามจุดที่คาดว่าระดับสูงขึ้นอาจทะลักเข้ามา โดยทางอำเภอได้นำเจ้าหน้าที่ อส. และองค์การปกครองท้องถิ่น ได้ช่วยขนของขึ้นที่สูงไปแล้ว และประกาศในพื้นที่ให้ระมัดระวังระดับน้ำที่กำลังจะมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยของประชาชนต่อไป