เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ศาลาว่าการกทม. ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. รับหนังสือร้องเรียนผู้บริหารตลาดนัดจตุจักร จากตัวแทนผู้ค้าโครงการ 30 อ้างว่าผู้บริหารใช้อำนาจเกินหน้าที่ ไม่ต่อสัญญาให้ผู้ค้าโครงการ 30 ทั้งที่ต่อให้โครงการอื่นปกติ

สำหรับข้อเรียกร้อง ประกอบด้วย 1.ขอคืนสิทธิและต่อสัญญาให้ผู้ค้าโครงการ 30 ตามมติ ครม. ที่ระบุต้องให้ต่อสัญญาทุกโครงการ 32 สัญญาเดิม 2.ตั้งคณะกรรมการคนกลางให้ประชาชนมีส่วนร่วมแก้ปัญหาความโปร่งใสในการบริหารพื้นที่ของภาครัฐ และที่ทำมาหากินของประชาชนในตลาดนัดจตุจักร เพื่อการอยู่ร่วมกัน และ 3. ให้สำนักงานกรุงเทพฯและเจ้าหน้าที่ตลาดนัดจตุจักร ปฏิบัติตามมติ ครม. ปี 61 และข้อบัญญัติกรุงเทพฯ

ด้านนายชัชชาติ ระบุ ผู้ค้ากลุ่มดังกล่าวเป็นผู้ค้าที่กางเต็นท์อยู่กลางตลาดนัดบริเวณหอนาฬิกา โดยทำสัญญาเป็นรายปี ต้องมีการทำความเข้าใจว่าปัจจุบันสำนักงานตลาดฯ มีแผนปรับปรุงเพื่อพัฒนาตลาดให้ดีขึ้น จึงต้องพิจารณารายละเอียดว่าจะช่วยเหลือได้อย่างไรบ้าง เพราะไม่ใช่ผู้ค้าที่อยู่ในตัวโครงการตลาดนัด

“ต้องทำความเข้าใจว่าการพัฒนาตลาดนัดจตุจักรไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไม่ใช่พื้นที่ของ กทม. แต่เป็นพื้นที่ของ รฟท.ที่รับมาตามมติ ครม.นานแล้ว และกทม.ต้องจ่ายค่าเช่า จึงต้องมาคุยกัน ถ้า กทม.ไม่เชี่ยวชาญด้านการจัดทำตลาดก็ควรจะคืนพื้นที่กลับไปให้รฟท.จัดการ เพราะการจะทำอะไรภายในตลาดนัดจตุจักรไม่ใช่ว่าทำได้สะดวก ต้องขออนุญาตกับ รฟท.ก่อน”

ขณะที่นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึง การชำระหนี้ค่าเช่าพื้นที่ว่า ปัจจุบัน กทม.เป็นหนี้ รฟท.เรื่องค่าเช่าที่ดินบริเวณตลาดนัดจตุจักร ประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้สะสมตั้งแต่ก่อนสมัยผู้ว่าฯ ชัชชาติ ขณะนี้ กทม.จะทำหนังสือถึง รฟท. เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ เพราะไม่สามารถนำเงินไปจ่ายเป็นก้อนใหญ่ก้อนเดียวได้

ทั้งนี้ เนื่องจากเงื่อนไขทางกฎหมายพบว่ายังไม่มีการทำสัญญาระหว่าง กทม.กับ รฟท. มีการโต้ตอบกันไปมาเรื่องกฎหมาย ทำให้ยังไม่มีความชัดเจน จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีการทำสัญญาระหว่างกัน ดังนั้น กทม.จึงทำหนังสือไปว่า ยินดีจ่ายค่าเช่าที่ผ่านมา แต่ขอให้จ่ายในลักษณะการปรับโครงสร้างหนี้แทน.