เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่รัฐสภา นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่มีผู้เผยแพร่คลิปเสียงหลุดโดยอ้างว่าเป็นเสียงของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่า ตนไม่ทราบว่าเป็นคลิปเสียงหลุดหรือตั้งใจปล่อยออกมา แต่ตนไม่เชื่อว่าเป็นเสียงของพล.อ.ประวิตร เพราะสามารถใช้เอไอ (AI) ทำเป็นเสียงและภาพได้ ทั้งนี้เคยมีกรณีคลิปวีดีโอของรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งที่สร้างหน้าของพล.อ.ประวิตรขึ้นมาว่าไปร้องเพลง ก็ยังไม่มีใครเชื่อ แต่ครั้งนี้มีคลิปเสียงสนทนาซึ่งเราไม่รู้ว่าใครเป็นคนอัดเสียงและนำไปปล่อย แต่กำลังทำให้เข้าใจว่าเป็นคลิปหลุด

เมื่อถามว่าการปล่อยคลิปเสียงหลุดนี้จะเป็นการดิสเครดิตทางการเมืองหรือไม่ นายสามารถ กล่าวว่า มันมีทุกวันอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ช่วงนี้หรือช่วงไหน  เมื่อถามอีกว่าอดีตคนใกล้ชิดของพล.อ.ประวิตรเป็นผู้ปล่อยคลิปเสียงหรือไม่ นายสามารถ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรเป็นคนเปิดกว้าง ใครจะเข้าหาพล.อ.ประวิตร ก็ทำได้หมด ท่านไม่ได้ปิดกั้น แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่าคลิปเสียงทั้งหมดเป็นคลิปจริง จึงอยากให้ไปถามคนที่ปล่อยว่านำประเด็นมาจากไหน แหล่งข่าวที่ไหน

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร แล้วหรือไม่ นายสามารถ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าตอนนี้คงมีคนรายงานให้ทราบแล้ว แต่พล.อ.ประวิตรคงไม่ได้สนใจอะไร ส่วนตนยังไม่ได้คุยกับพล.อ.ประวิตร เพราะเมื่อเช้าเข้าประชุมสภา

เมื่อถามว่าในคลิปเสียงที่หลุดออกมา มีการยืนยันจากนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ว่าได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตรจริง นายสามารถ กล่าวว่า สื่อต้องไปถามนายสุทธิพงษ์ว่าท่านพูดว่าอย่างไร แต่ตนยืนยันว่าไม่ใช่คลิปเสียงจริง ส่วนจะเป็นประเด็นที่ทำให้พล.อ.ประวิตรเสียหายนั้น ตนอยากให้พิสูจน์ว่าเรื่องนี้เป็นจริงหรือไม่ แต่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าน่าจะมีคลิปมากกว่าบ้านป่ารอยต่อ

ต่อข้อถามว่าจะหาคลิปที่บ้านจันทร์ส่องหล้าหรือไม่ นายสามารถ กล่าวว่า เป็นกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีการไต่สวนหาพยานหลักฐาน แต่ตนคิดว่าประชาชนน่าจะสนใจคลิปที่บ้านจันทร์ส่องหล้ามากกว่า

เมื่อถามว่าขณะนี้รอบตัวของ พล.อ.ประวิตรอาจไม่ใช่คนที่ไว้ใจได้ ใช่หรือไม่นั้น นายสามารถ กล่าวว่า ขอให้มองว่า พล.อ.ประวิตร เป็นคนดี ไม่ได้มีการคัดกรองอะไร ลาไว้ต้องบอกว่า พล.อ.ประวิตร เป็นบุคคลที่ควรนับถือหัวใจ ทุกครั้งที่โดนกระทำก็ไม่เคยออกมาตอบโต้ ใช้ความเป็นชายชาติทหาร นักรบ โดยที่ไม่ได้ออกมาบอกว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และเป็นผู้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว แต่ตนคิดว่าพล.อ.ประวิตรคงไม่ได้รู้สึกเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง ส่วนอนาคตถ้าเป็นคลิปเรื่องคอขาดบาดตาย ก็ขอให้ค่อยว่ากัน อย่าคาดเดาเหตุที่ยังยังไม่เกิด

นายสามารถ กล่าวต่อว่า ตนมองการลาออกของสมาชิกพรรคพลังประชารัฐเหมือนกับนักฟุตบอล  เพราะนักการเมืองก็เป็นอาชีพที่ไม่ใช่ว่าใครก็จะจับต้องไม่ได้ อาชีพที่มีเข้าออก ฟุตบอลเมื่อมีการเปิดฤดูกาลก็จะ เห็นว่านักเตะหลายทีมไปเข้ากับทีมที่มีเงื่อนไขดีกว่า เราจึงควรเคารพการตัดสินใจ อย่างตระกูลรัตนเศรษฐ์ ที่ขอลาออกไปแบบนั้น  ส่วนจะออกไปกันไปด้วยดีหรือไม่ตนไม่ทราบแต่ไม่อยากให้มาเป็นประเด็นประเด็นทางการเมือง

เมื่อถามอีกว่าการลาออกของสมาชิกพรรคคนอื่น ๆ แม้ว่ายังจะไม่ถึงระยะเวลาเลือกนายก ฯ นั้น  ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี พอพรรคจะได้เริ่มใหม่ ไม่ใช่มีแต่คนตระกูลใหญ่บ้านใหญ่ จะได้มีบุคคลใหม่ใหม่มาทำเพื่อชาติบ้านเมือง หากจะเอาแต่คนรุ่นเก่าไว้ก็จะการเมืองไม่ได้ ส่วนเหตุผลที่หลายคนลาออกเพราะไม่ชอบนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐนั้น ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว อย่าเอามาตัดสินภาพรวม ในฐานะที่ตนอยู่ในพรรคมาตั้งแต่ปี 2561 เลขาธิการพรรคก็มีมาหลายคน ส่วนตัวก็เห็นว่า นายไพบูลย์มีความเหมาะสมสำหรับช่วงนี้ ที่พรรคต้องการจะปรับรูปแบบการดำเนินการ และย้ำว่าต้องเคารพความคิดเห็นของทุกคน