เมื่อวันที่ 11 ก.ย. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงมีพระบัญชาโปรดให้ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ปฏิบัติหน้าที่แทนพระองค์ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการประชุมสัมมนาพัฒนาบุคลากรการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ที่หอประชุมพุทธมณฑล อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ในการนี้ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กล่าวเปิดการประชุมว่า สมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้เชิญพระโอวาท มาในการเปิดประชุมบุคลากรการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ประจำปี 2567 ความตอนหนึ่งว่า ปัญหาใหญ่ของการเผยแผ่ทุกวันนี้คือ ผู้ไม่รู้ย่อมไม่รู้ตัวว่าตัวเองไม่รู้ หรือรู้ผิดๆ แต่มั่นใจว่าตนถูก ตนเหนือกว่าใครๆ ยึดมั่นถือมั่นในโมหาคติ คือ อคติ เพราะความหลงของตนๆ เป็นประมาณ เพราะฉะนั้น การศึกษาคันคว้าให้ถ่องแท้ตามกระบวนการศึกษาพระปริยัติธรรมตั้งแต่แผนกธรรม แผนกบาลี และแผนกสานัญ ซึ่งคณะสงฆ์ทุกยุคทุกสนัย นับแต่ครั้งบรรพกาล สืบมาถึงบูรพาจารย์คณะสงฆ์ไทย ได้สู้อุตสาหะสร้างสร้างสรรค์หลักสูตร และวิธีการไว้ จึงเป็นสิ่งจำเป็นสูงสุด สำหรับการเผยแผ่อย่างมีหลัก และหลักที่ว่านั้นคือพระไตรปิฎกคัมภีร์อรรถกถา ฎีกา และปกรณ์ต่างๆ อันมีแบบแผนอ้างอิงได้ นำไปสู่การวิจัยอย่างลึกซึ้ง กระทั่งบังเกิดมวลความรู้ในตนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิมากพอที่จะทำหน้าที่เผยแผ่ได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน ไม่ก่อให้เกิดสัทธรรมปฏิรูปซึ่งเป็นบาปมหันต์ และเป็นการบั่นทอนอายุพระศาสนาโดยตรง

ขอฝากหลักการให้ท่านจงตระหนักมั่นอยู่เสมอว่า นักเผยแผ่ต้องศึกษาค้นคว้าและทำความเข้าใจในพระธรรมวินัยให้เชี่ยวชาญ มุ่งมั่นดำเนินงานของหมู่คณะให้ดำรงอยู่ในกระบวนการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมตามพุทธวิธี และตามวิถีแห่งบูรพาจารย์คณะสงฆ์ไทย อย่าได้อวดอ้างสั่งสอนไปนอกแบบอย่างหนทางของพระบรมครูตลอดจนอุปัชฌาร์อาจารย์ที่ท่านอบรมสั่งสอนสืบทอดมา อย่าเผลอใช้อัตโนมติของตน หรือเอาอกเอาใจกระแสแห่งลาภสักการะที่จรมาแล้วจรไปอย่างชั่วครู่ชั่วคราว ขอให้รักษาความยุติธรรม โดยการยุติปัญหาทุกอย่างด้วยธรรมซึ่ง “ธรรมะ” ที่ว่านั้น ต้องเป็นไปตามลำดับขั้นตอนแห่งการศึกษาพระปริยัติธรรมอันมีระบบระเบียบ อย่าริเรียนลัดตัดตอน อย่าเป็นนักโฆษณาโดยถือทิฐิมานะตนเป็นใหญ่ ขอให้พากเพียรเผยแผ่ไปตานหลักอนุปุพพิกถา สอดส่องพื้นฐานความรู้และอัธยาศัยของประชุมชนก่อนเผยแผ่ เพื่อผลแห่งการศึกษาและปฏิบัติธรรมตามที่ท่านทั้งหลายได้อุตส่าห์อบรมไว้ จักได้บังเกิดขึ้นจริง ตามศักยภาพของผู้เล่าเรียนศึกษา และตามกำลังความสามารถของนักเผยแผ่ผู้มีกุศลเจตนาแน่วแน่ต่อการธำรงรักษาพระสัทธรรม

ด้านนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ศูนย์การเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมกับพศ. จัดโครงการประชุมสัมมนาบุคลากรการเผยแผ่พระพุทธศาสนาทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาบุคลากรการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้มีทักษะองค์ความรู้ที่จะขับเคลื่อนการเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้บุคลากรการเผยแผ่พระพุทธศาสนามีความตระหนักและเข้าใจบทบาทหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตามระเบียบมหาเถรสมาคม ว่าด้วยการเผยแผ่พระพุทธศาสนา พ.ศ.2564 เพื่อให้บุคลากรการเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้รับทราบและเข้าใจนโยบายด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์และศูนย์การเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ