เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หาวิธีการใหม่ๆ เพื่อหลอกเงินออกจากบัญชีของเหยื่อ ล่าสุดได้สวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งหนึ่ง ในขณะที่ผู้เสียหายกำลังทำธุรกรรมทางออนไลน์กับธนาคารอยู่พอดี ทำให้ผู้เสียหายเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารจริง โดยโทรมาแนะนำขั้นตอนในการทำธุรกรรม แต่สุดท้ายเมื่อแนะนำทำธุรกรรมเสร็จสิ้น มิจฉาชีพสวมรอยเป็นเจ้าของบัญชีได้สำเร็จ เงินได้ทยอยออกจากบัญชี นำไปฟอกในแอปพลิเคชั่นช้อปปิ้งออนไลน์

โดยล่าสุด น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหายรายนี้ได้นำวิธีการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์รูปแบบใหม่ มาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเพื่อจะได้เตือนภัยและรู้เท่าทันกลลวงของมิจฉาชีพที่มาหลากหลายรูปแบบ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดในช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา น.ส.เอ ได้เข้าไปในแอปของธนาคารแห่งหนึ่ง เพื่อจะเพิ่มวงเงินในบัตรเครดิตที่ตัวเองมีอยู่ และอยู่ระหว่างการทำธุรกรรม เพียงไม่ถึง 15 นาที มิจฉาชีพได้สวมรอยเข้ามาแนะนำตัวว่าเป็นพนักงานธนาคารแห่งนั้น อีกทั้งยังพูดข้อมูลถูกทุกอย่าง โดยทราบว่าตนกำลังเพิ่มวงเงินของธนาคารอยู่ โดยอ้างว่าการเพิ่มวงเงิน ต้องสมัครบัตรเดบิตของธนาคารก่อน ถึงจะได้รับการอนุมัติ และตรวจสอบชื่อของธนาคาร และเมื่อตรวจสอบชื่อของเจ้าหน้าที่ที่โทรมาให้สมัครบัตรเดบิต ก็พบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารจริง อีกทั้งยังรู้ข้อมูลของ น.ส.เอ ทุกอย่าง ทั้งเงินฝากและค่าใช้จ่ายในบัญชีทั้งหมด และพูดเหมือนรีเฟอร์ข้อมูลเราว่าโดยปกติค่าใช้จ่ายที่เราใช้จะอยู่ที่ประมาณเดือนละเท่านี้ๆ นะ ซึ่ง น.ส.เอ ไม่เคยตรวจสอบข้อมูลเลย จึงเข้าไปดูพบว่าจริงตามที่มิจฉาชีพบอก ทำให้ น.ส.เอ ยิ่งเชื่อสนิทใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารจริง และมิจฉาชีพให้เปิดกล้อง เพื่อแนะนำขั้นตอนในการสมัครบัตรเดบิต ซึ่งโทรศัพท์ของตนช้าและไม่ค่อยเด้ง ตนก็ยังไม่เห็นเลข OTP นั้น ทางมิจฉาชีพบอกว่า เดี่ยวให้ใส่เลขนี้ไปนะ เพราะเป็น OTP กระทั่งได้รับรหัส OTP ซึ่งมิจฉาชีพก็ทราบรหัสก่อน น.ส.เอ หลังจากนั้นมีการโอนเงินเข้าออกครั้งละ 1 บาทหลายรอบ จึงย้อนถามไปว่าพี่เป็นมิจฉาชีพเปล่า มิจฉาชีพยืนว่าเป็นพนักงานธนาคารฯ จริง และแจ้งเลขรหัสพนักงาน แต่ครั้งสุดท้ายมีเงินถูกโอนออกจากบัญชีไปเกือบ 5 หมื่นบาท ทำให้ น.ส.เอ รู้ว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ธนาคารจริง ส่วนมิจฉาชีพที่โทรมาอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารไม่สามารถติดต่อได้ น.ส.เอ จึงรีบโทรหาธนาคารทันที เพื่ออายัดเงินบัตรเดบิตทันที ต้องขอบคุณ ปอท. , ธนาคาร ที่ทำงานได้รวดเร็วอายัดเงินในบัญชีที่มีอยู่กว่า 2 ล้านบาท มิเช่นอาจะสูญหมดบัญชี

ต่อมา น.ส.เอ เดินทางมาร้องเรียนกับตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง มอบหมายให้ พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. , พ.ต.อ.วัชรพล ศิริพากษ์ รอง ผบก.ปอท. พ.ต.อ.ภานุภัท กิตติพันธุ์ ผกก.1 ปอท. ร.ต.อ.กษิดิศ ดิลกคุณานันท์ รอง สว.กก.1 บก ปอท. ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.เอ และได้ตรวจเช็กข้อมูลเบื้องต้น พบว่าการทำธุรกรรมกับธนาคารในการเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตจริงแต่ยังไม่สำเร็จ แต่คนร้ายซึ่งเป็นมิจฉาชีพได้แฝงตัวเข้ามาในช่วงผู้เสียหายกำลังทำธุรกรรม เมื่อเหยื่อหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารจริง และได้เปิดกล้องเพื่อให้มิจฉาชีพได้แนะนำการทำบัตรเดบิตคนร้ายได้ใช้ช่วงนี้ก๊อปปี้ข้อมูลตัวเลข ในการเปิดบัตรเดบิต และได้นำไปแอบอ้างสวมรอยตัวผู้เสียหายเพื่อนำบัตรเดบิตไปใช้ในการซื้อสินค้ากับร้านค้าในแอปชื่อดังของออนไลน์ แต่โชคดีที่เมื่อตรวจสอบแล้วคนร้ายแฮ็กไปได้ 1 ครั้ง

ส่วนมิจฉาชีพจะทราบข้อมูลที่ผู้เสียหายติดต่อกับธนาคารในช่วงแรกว่า มีการเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตได้อย่างไร ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่เท่าที่ที่ผ่านมามิจฉาชีพยังไม่สามารถเข้ามาดูดเงินออกจากบัญชีได้หากผู้เสียหายไม่ได้เข้าไปกดลิงค์และกรอกข้อมูลส่วนตัว โดยระบบธนาคารยังมีความปลอดภัยไม่สามารถแฮ็กเงินหมดบัญชีไปเองได้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเดือน มี.ค. 66 น.ส.เอ ยังได้ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นบริษัทขายสินค้าออนไลน์ หลอกให้ร่วมลงทุน แต่ต้องนำเงินของ น.ส.เอ โอนไปก่อน จนสูญเงินไปเกือบ 6 แสนบาท.