เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 67 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย มีมติไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรค พปชร. ว่า ที่จริงพอจะทราบแนวทางมาว่าเขาไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับรายชื่อรัฐมนตรีที่เราเสนอ โดยสร้างเงื่อนไขบางอย่างขึ้นมา เมื่อมีมติออกมาแบบนี้ก็ชัดเจน เราทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ส่วนที่อ้างเหตุผลว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค พปชร. ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ลงมติโหวต น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเราชี้แจงไปแล้วว่าหัวหน้าพรรคติดภารกิจ ไม่สามารถไปโหวตได้ แต่ สส. 39 เสียง ไปโหวตให้หมด จึงไม่น่าใช่สาระสำคัญที่ไม่นำ พปชร. ไปร่วมรัฐบาล สำหรับ สส.พปชร. ฝั่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ยังไม่การดำเนินการอะไร เพราะ พล.อ.ประวิตร ถือว่าทุกคนเป็นสมาชิกพรรค อย่าทะเลาะกัน

เมื่อถามว่า มองทิศทางการเมืองจากนี้อย่างไร นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การที่เขาทำการเมืองแบบนี้ การเมืองแบบดูด สส. ไม่มีระบบการเมืองที่ชัดเจน ทำตามข้อตกลงหรือผลประโยชน์ที่ตกลงกัน เชื่อว่าสุดท้ายจะมีการขัดกัน หรือไม่เป็นไปตามข้อตกลง จะมีการเรียกร้องอะไรบางอย่างที่ทำไม่ได้ จะมีปัญหาในอนาคต เพราะการเมืองไม่ได้เป็นระบบพรรค ไม่เข้มแข็ง ไม่อยู่ในกรอบกติกา สุดท้ายเชื่อว่าจะเกิดการทะเลาะกันเพราะผลประโยชน์ไม่ลงตัว การเมืองจะไม่นิ่ง ทำงานยาก และไม่ราบรื่น

ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก สส. ฝั่ง ร.อ.ธรรมนัส โหวตไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกับพรรคจะทำอย่างไร นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เป็นแนวคิดของเขา ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลา จึงตอบไม่ได้ว่าจะดำเนินการอย่างไร ให้ไปถึงจุดนั้นก่อน ขณะนี้พรรค พปชร. จะอยู่อย่างนี้ไปสักระยะ ยังไม่ขยับอะไร เมื่อถามว่าจะประชุมพรรค เพื่อหารือในเรื่องนี้หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า มีการประชุมพรรคเป็นประจำ และคุยกันตลอด วันนี้เราทำหน้าที่ฝ่ายค้าน พร้อมทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล และนำเสนออะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน

เมื่อถามว่า จะทำงานร่วมกับพรรคประชาชน ที่มีแนวคิดทางการเมืองต่างกันได้หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ต้องพูดคุยกัน เราไม่ได้เป็นพรรครัฐบาล มีหน้าที่ในการอภิปราย เรื่องการลงมติ การแบ่งเวลาอภิปราย ต้องคุยกันว่าจะไปในทิศทางใด และเชื่อว่าคงคุยกันได้ เมื่อถามย้ำว่า เรื่องแก้ไขมาตรา 112 ทั้งสองพรรคเดินเหมือนเส้นขนาน นายชัยวุฒิ กล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดไปในทางเดียวกันทุกเรื่อง พรรคร่วมฝ่ายค้านในอดีตก็ไม่ได้ไปในทางเดียวกันทุกเรื่อง และเรื่องมาตรา 112 มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอยู่ว่าไม่สามารถแก้ไขได้.