ปัจจุบัน คนไทยมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับ “การบริจาคอวัยวะ บริจาคดวงตา” ไม่ได้ทำให้ชาติหน้าเกิดมาพิกลพิการ อวัยวะไม่ครบ 32 แต่ในทางตรงข้าม “ยิ่งให้ยิ่งได้” ต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ บุญใหญ่ยิ่งกว่าการสร้างโบสถ์ สร้างวิหาร

ล่าสุด “กระทรวงสาธารณสุข” กับ “สภากาชาดไทย” ไม่ตกขบวนยุคดิจิทัล ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การเชื่อมโยงข้อมูลบริการด้านสาธารณสุข บน Digital Health Platform ของกระทรวงสาธารณสุข” ช่องทางด่วนสร้างบุญใหญ่ในการแสดงความจำนงบริจาคดวงตา บริจาคอวัยวะผ่าน LINE Official Account และ Application หมอพร้อม ถือเป็นหนึ่งในกระบวนการที่จะช่วยเพิ่มโอกาสและคุณภาพชีวิตแก่ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะเพื่อให้สามารถมีชีวิตต่อไปได้ ซึ่ง จากข้อมูลของสภากาชาดไทย พบว่ามีผู้ป่วยรอคอยดวงตาและอวัยวะประมาณ 18,000 ราย แต่ได้รับการปลูกถ่ายดวงตาเฉลี่ยปีละ 1,000 ดวงตา และปลูกถ่ายอวัยวะเฉลี่ยเพียงปีละ 300 รายเท่านั้น

“ขอขอบคุณสภากาชาดไทยและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ให้ความสำคัญและร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขพัฒนาต่อยอดการบริจาคดวงตาและอวัยวะผ่าน Line OA หมอพร้อม เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงการบริจาคดวงตาและอวัยวะ สร้างการรับรู้และความเข้าใจให้แก่ประชาชนให้สามารถตัดสินใจเรื่องการบริจาคได้อย่างสบายใจมากขึ้น เพิ่มความหวังให้ผู้ป่วยที่กำลังรอโอกาส และขอเชิญชวนทุกคนร่วมแสดงความจำนงบริจาคดวงตาและอวัยวะเพื่อเป็นผู้ให้ ช่วยต่อชีวิตและต่อลมหายใจแก่ผู้ป่วย ซึ่งถือเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่” นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าว

ความร่วมมือนี้เป็นการยกระดับรูปแบบการรับบริจาคดวงตาและอวัยวะ ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ทันสมัย เป็นมิติใหม่ให้ทุกคนสามารถแสดงความจำนงการบริจาคของตนเองได้และตรวจสอบข้อมูลการบริจาคได้ผ่านช่องทางเดียวกัน โดยข้อมูลจะถูกจัดเก็บอย่างเป็นความลับภายใต้ระบบการบริหารจัดการข้อมูลที่มีระดับความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้การบริจาคดวงตาและอวัยวะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สามารถให้บริการและดูแลผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม ทันเวลา เป็นประโยชน์อย่างมากในการวางแผนและพัฒนาการให้บริการด้านสาธารณสุขในอนาคต

ด้าน นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนรอกระจกตาและอวัยวะกับสภากาชาดไทยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งความร่วมมือระหว่าง สภากาชาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มช่องทางให้ประชาชนที่มีจิตกุศลได้แสดงความจำนงบริจาคดวงตาและอวัยวะสะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถตรวจสอบสถานะการแสดงความจำนงบริจาคของผู้ป่วยที่เสียชีวิตและแจ้งแก่ญาติ เพื่อให้การบริจาคสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและตรงตามเจตจำนง ซึ่งจะเป็นผลดีสำหรับผู้ป่วยที่รอคอยการปลูกถ่ายกระจกตาและอวัยวะได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง.

อภิวรรณ เสาเวียง