สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ว่า ประชาชนในเมืองมีร์โนกราด ของภูมิภาคโดเนตสก์ ในภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งสถิติก่อนเกิดสงครามระบุว่า มีประชากรราว 40,000 คน ทยอยอพยพออกจากพื้นที่ตามคำสั่งของทางการ เนื่องจากการรุกคืบอย่างหนักของกองทัพรัสเซีย


ขณะที่ชาวเมืองโปครอฟสก์ ในภูมิภาคโดเนตสก์ ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 50,000 คน และตั้งอยู่ห่างจากเมืองมีร์โนกราดประมาณ 5 กิโลเมตร ได้รับคำสั่งให้อพยพ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา


สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ในเวลาเดียวกับที่กองทัพยูเครนอ้างการยึดครองพื้นที่มากกว่า 1,000 ตารางกิโลเมตร ในภูมิภาคเคิร์สก์ ทางตะวันตกของรัสเซีย เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ โดยอ้างว่าเป้าหมายสร้าง “แนวกันชน” เพื่อปกป้องประชาชนในภูมิภาคทางตะวันออกของยูเครน


อย่างไรก็ตาม สถานการณ์สู้รบในภูมิภาคโดเนตสก์ ที่เป็นศูนย์กลางความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ตั้งแต่ปี 2557 แทบไม่มีแนวโน้มคลี่คลาย และทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่สงครามระหว่างทั้งสองประเทศปะทุ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565


ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์ ว่าสามารถสกัดกั้นความพยายามโจมตีข้ามพรมแดนครั้งใหม่ของยูเครน ที่ภูมิภาคเบรียนสก์ ที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศ ใกล้กับภูมิภาคเคิร์สก์ แต่ยูเครนยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้.

เครดิตภาพ : AFP