เรื่องอื้อฉาวข้างต้นสร้างความตกตะลึงไปทั่วฟิลิปปินส์ และทำให้เกิดการเรียกร้องให้รัฐบาลมะนิลา แบนอุตสาหกรรมการพนันออนไลน์ เนื่องจากมันมีความเชื่อมโยงกับการหลอกลวงทางการเงิน, การลักพาตัว, การค้าประเวณี, การค้ามนุษย์, การทรมาน และการฆาตกรรม

เมื่อไม่นานมานี้ ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้นำฟิลิปปินส์ ประกาศแบนภาคส่วนดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า การละเมิดและการไม่เคารพระบบกฎหมายของฟิลิปปินส์ ต้องยุติลง พร้อมกับให้เวลาแรงงานต่างด้าวที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เดินทางออกจากประเทศ ภายใน 2 เดือน

ทั้งนี้ รัฐบาลมะนิลาเชื่อว่า ฟิลิปปินส์อาจมีบริษัทการพนันออนไลน์ผิดกฎหมายหลายร้อยแห่ง รวมถึงผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตมากกว่า 40 ราย ที่เปิดศูนย์หลอกลวงต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่รัฐโดยไม่รู้ตัว

น.ส.อลิซ ลีล กัว นายกเทศมนตรีประจำเทศบาลบัมบัน ถูกกล่าวหาว่าดำเนินการค้ามนุษย์ และฟอกเงิน ซึ่งเธอถูกสั่งพักงาน และขณะนี้กำลังซ่อนตัว หลังจากทางการออกหมายจับ แม้เธอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาก็ตาม

เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มอาคารในเทศบาลบัมบัน ซึ่งดำเนินการโดยชาวจีน และประกอบด้วยอาคารสำนักงาน วิลล่าหรู รวมถึงสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ถูกตำรวจฟิลิปปินส์บุกค้น หลังพวกเขาได้รับคำแนะนำจากชายชาวเวียดนาม ที่หลบหนีออกจากสถานที่ดังกล่าว

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพบชาวฟิลิปปินส์, ชาวจีน, ชาวเวียดนาม, ชาวมาเลเซีย, ชาวไต้หวัน, ชาวอินโดนีเซีย และชาวรวันดา จำนวนรวมมากว่า 700 คน ในที่เกิดเหตุ ตลอดจนเอกสารที่แสดงให้เห็นว่า กัวเป็นประธานของบริษัทที่เป็นเจ้าของกลุ่มอาคารแห่งนี้

อนึ่ง ศูนย์หลอกลวงมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในกรณีของฟิลิปปินส์ ศูนย์หลอกลวงหลายแห่งมักบังหน้าด้วยการเป็นบริษัทการพนันออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินการโดยชาวจีน และมุ่งเป้าไปที่ผู้คนในต่างประเทศ

นอกจากนี้ ตัวเลขอย่างเป็นทางการเผยให้เห็นว่า ชาวต่างชาติและชาวฟิลิปปินส์มากกว่า 60,000 คน ทำงานให้กับบริษัทการพนันออนไลน์ที่มีใบอนุญาต อีกทั้งคาดว่ามีคนงานมากถึง 100,000 ที่ทำงานให้กับบริษัทผิดกฎหมายเหล่านี้

แม้บริษัทการพนันออนไลน์จะเฟื่องฟูในสมัยอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต หลังหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลมะนิลา ได้รับสิทธิในการออกใบอนุญาตประกอบการทั่วประเทศ แต่บริษัทหลายแห่งสูญเสียใบอนุญาตของพวกเขาเมื่อปี 2566 จนต้องเปลี่ยนไปดำเนินการอย่างหลบซ่อน ซึ่งในขณะนี้ ทางการฟิลิปปินส์กำลังเร่งปิดธุรกิจเหล่านี้ทั้งหมด.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : AFP