สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ว่า ญี่ปุ่น ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่ล่าวาฬเชิงพาณิชย์ เช่นเดียวกับนอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ เพิ่มวาฬฟินลงในรายชื่อสายพันธุ์วาฬที่สามารถจับได้ จากเดิมที่มีวาฬมิงค์, วาฬบรูด้า และวาฬเซย์
“เหตุผลหลักของการตัดสินใจข้างต้น คือ วาฬฟินมีจำนวนเพียงพอสำหรับการล่า” เจ้าหน้าที่หน่วยงานประมงของญี่ปุ่น กล่าวเกี่ยวกับแผนการล่าวาฬฟิน 59 ตัวในปีนี้
อย่างไรก็ตาม องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (ไอยูซีเอ็น) ประเมินว่า วาฬฟินเป็นสัตว์ที่ “เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์” อีกทั้งการตัดสินใจของญี่ปุ่น ยังทำให้บรรดานักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์เกิดความตื่นตระหนก และเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากรัฐบาลออสเตรเลีย
“ออสเตรเลียรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่ง และคัดค้านการล่าวาฬเชิงพาณิชย์ทุกรูปแบบ ตลอดจนเรียกร้องให้ทุกประเทศ ยุติแนวปฏิบัติเช่นนี้” นางทันยา พลิเบอร์เซค รมว.สิ่งแวดล้อมออสเตรเลีย กล่าวในแถลงการณ์
อนึ่ง ญี่ปุ่นถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ในการระงับการล่าวาฬเชิงพาณิชย์ชั่วคราว ของคณะกรรมการการล่าวาฬระหว่างประเทศ (ไอดับเบิลยูซี) ซึ่งทำให้เกิดการล่าวาฬเชิงวิทยาศาสตร์ จนกระทั่งญี่ปุ่น ถอนตัวออกจากไอดับเบิลยูซี เมื่อปี 2562 ก่อนกลับมาล่าวาฬเชิงพาณิชย์อีกครั้งในน่านน้ำอาณาเขต และเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (อีอีแซด) ของประเทศ.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES