“พี” ศศลักษณ์ ไหประโคน นักเตะทีมชาติไทย ที่เดินทางไปร่วมทีม ชุนบุก ฮุนได มอเตอร์ส ในเกาหลีใต้ ยอมรับว่าทึ่งกับโลกลูกหนังใบใหม่ที่เขาเจอที่แดนโสมขาว และขอตั้งความหวังเต็มที่ ในการได้สัญญาถาวร
ชุนบุก เซ็นสัญญายืมตัว ศศลักษณ์ ไปใช้งาน 6 เดือน ซึ่งหลังจบฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เจ้าพี ก็เดินทางต่อไปยังประเทศเกาหลีใต้เลย ซึ่ง ชุนบุก ได้เปิดตัวเรียบร้อย สวมหมายเลข 28 ตอนนี้เจ้าตัวซ้อมที่เกาหลีใต้ ขณะที่ทีมบินไปเตะเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ที่อุซเบกิสถาน
กับการลุยเคลีก เจ้าพี ให้สัมภาษณ์กับโกลไทยแลนด์ ยอมรับว่า ตอนที่ร่วมทีมชาติไทยไปยูเออี ยังไม่ทราบเรื่องเลยว่า ชุนบุก จะยืนยันจะคว้าตัวเขาไปหลังจากเคยมีข่าว รู้สึกประหลาดใจมาก ตอนไปยูเออี ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย เสื้อผ้า ของใช้ต่างๆ ก็เอาไปเฉพาะแค่ใช้ในช่วงกับทีมชาติ อยากจะกลับไปลา นายเนวิน ชิดชอบ และ นางกรุณา ชิดชอบ ก็ไม่มีโอกาส ตอนแรกคิดว่า ชุนบุก จะไปหาตัวเลือกอื่นแล้วด้วยซ้ำ ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกอย่างไร ยิ่งตอนที่จะแยกกับทีมชาติไทย ก็เริ่มพูดไม่ออก ตอนรอขึ้นเครื่องบินคนเดียว ทั้งซึม ทั้งดีใจ พูดกับตัวเองว่า ชีวิตมาถึงขนาดนี้ได้อย่างไร
เจ้าพี กล่าวต่อไปว่า เมื่อไปถึงมีรถของรัฐบาลมาคอยรับ และหน่วยงานพากักตัว 14 วัน ในส่วนของสโมสรก็เตรียมให้ทุกอย่าง ที่พัก ก็มีทั้งห้องนอน, ห้องฟิตเนส, อาหาร, นม และ โปรตีน พอออกจากกักตัว ก็ซ้อมต่อได้เลย ระหว่างกักตัว 14 วัน ได้โปรแกรมฟิตเนสจากโค้ช บุรีรัมย์ ด้วย ก็พยายามเตรียมร่างกายให้พร้อมที่สุด แล้วก็พยายามนั่งดูเกมของ ชุนบุก ที่ไปเล่นเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก จริงๆ ก็ศึกษาล่วงหน้าแล้ว รวมถึงศึกษาทีมคู่แข่งในเคลีกด้วย
ศศลักษณ์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อกักตัวครบ 14 วัน เหมือนเจอโลกใบใหม่ ทุกคนที่นี่ขยันกันมาก เวลาทำงานก็คือทำงาน พร้อมจะซ้อมกันตลอด ให้ทำอะไรก็ทำ เหมือนเป็นพลังให้ตนด้วย ในเมื่อเห็นคนอื่นทำได้ ตนก็ต้องทำได้ เหนื่อยได้ ตนก็ต้องเหนื่อยได้ ไม่ถึงตาย บอกตัวเองแค่นี้ คลับเฮาส์ที่นี่สมบูรณ์แบบมาก มีสิ่งอำนวยความสะดวก การจัดการต่างๆ และพร้อมทุกอย่าง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ชุนบุก ถึงเป็นหนึ่งในทีมที่ดีสุดในเอเชีย ขณะเดียวกัน สโมสรก็มีล่ามให้ด้วย และได้มีโอกาสวิดีโอคอลคุยกับโค้ช โค้ชบอกว่ายินดีต้อนรับ ชอบตนตั้งแต่ตอนเจอ ชุนบุก ครั้งแรกแล้ว
ดาวเตะทีมชาติไทย กล่าวว่า เป็น 6 เดือนที่สำคัญมาก เหมือนตอนย้ายจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตอนนั้นไม่รู้ว่าไปอยู่แล้วจะได้สัญญาถาวรมั้ย แต่ที่แน่ๆ คิดว่าไม่มีอะไรจะเสีย มีแต่ได้กับได้ จะพยายามทำงานให้หนัก พยายามได้สัญญาถาวรให้ได้ หรือ หากไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อ แต่อย่างน้อย สิ่งที่ได้กลับไปแน่นอนคือได้พัฒนาตัวเอง
“บางคนชอบบอกว่า ไม่คาดหวัง เราก็ไม่ผิดหวัง แต่ชีวิตผมอยู่ด้วยความหวัง ดังนั้น 6 เดือนนี้ ผมจะคาดหวัง และพยายามไปถึงสิ่งที่ผมหวังให้ได้” ศศลักษณ์ กล่าว.
(Cr.pic. 전북현대모터스 – Jeonbuk Hyundai Motors FC)