“เมย์” รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันมือ 21 ของโลก วัย 29 ปี ยกย่อง ไท่ซื่อหยิง นักตบไต้หวัน เป็นคู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ เจอกันมานานบนเส้นทางนักตบลูกขนไก่ ยกว่ามีจุดหนึ่งที่เหนือกว่าตนเองชัดเจน

รัชนก ตบชนะ ไท่ซื่อหยิง ในนัดสุดท้าย รอบแรก กลุ่ม E 2-0 เกม 21-19, 21-15 คว้าแชมป์กลุ่ม เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย ส่วน ไท่ซื่อหยิง ที่มีอาการเจ็บในเกมแพ้ น้องเมย์ นั้น ตกรอบ โดยหลังเกมทั้งคู่ได้สวมกอดและต่างร้องไห้ เหมือนเป็นสัญลักษณ์ของการร่ำลา เป็นชอตประทับใจเรียกเสียงปรบมือลั่นสนาม

ทั้งนี้ คาดกันว่า ไท่ซื่อหยิง วัย 30 ปี จะแขวนแร็กเกตหลังจบโอลิมปิกเกมส์ อย่างไรก็ตาม เธอยังไม่ยืนยันในเรื่องนี้ ต้องดูสภาพอาการบาดเจ็บหัวเข่าอีกครั้ง ว่าจะกลับมาสมบูรณ์หรือไม่

“ฉันเป็นคนอ่อนไหวมาก สไตล์ของเราคล้ายกันมาก เหมือนกับเล่นตัวเองหน้ากระจก ฉันบอกเธอว่าฉันดีใจที่เราเข้าร่วมโอลิมปิกด้วยกัน และหวังว่าเธอจะโชคดี” น้องเมย์ กล่าวถึงคำพูดที่พูดกับ ไท่ซื่อหยิง หลังจบการแข่งขัน

ผู้สื่อข่าวสอบถาม รัชนก ว่า คิดว่า ไท่ซื่อหยิง เป็นคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ เป็นคู่ปรับตลอดกาลในเส้นทางแบดมินตันหรือไม่ น้องเมย์ กล่าวว่า “มันเหมือนเราร่วมเดินเส้นทางนี้มานาน ตั้งแต่อายุ 15-16 ปี เป็นสิบๆ ปีแล้ว ที่รู้จักกันมา เห็นรูปร่าง การเปลี่ยนแปลง ไท่ซ่อหยิง มีหนาขึ้น เป็นนักแบดมินตันที่เจอมากที่สุดในทัวร์

รัชนก กล่าวว่า ตนเองยังไม่สามารถก้าวข้ามจุดเดิมได้ แต่ ไท่ซื่อหยิง ได้เหรียญโอลิมปิกไปแล้ว อาจไม่ได้แชมป์โลกก็จริง แต่มหกรรมใหญ่ๆ คว้าเหรียญมาหมดแล้ว ตัวเองนั้นเล่นกับ ไท่ซื่อหยิง มานาน รู้ทางกันดี ยอมรับเลยว่าสิ่งที่ ไท่ซื่อหยิง เหนือกว่าตนคือสภาพจิตใจ

น้องเมย์ จะลงแข่งรอบ 8 คนสุดท้าย วันที่ 3 ส.ค. 67 ซึ่งเป็นการเข้ารอบควอเตอร์ไฟนัลโอลิมปิกหนที่ 3 ต่อจากปี 2012 และ 2020 ทว่ายังไม่เคยไปไกลกว่ารอบนี้เลย

เมื่อถามถึงความหวังเหรียญโอลิมปิก รัชนก กล่าวว่า ต้องดูไปทีละแมตช์ “ไม่ได้หวัง ทุกคนมีโอกาสหมด เมย์ผ่านวันนี้ได้ ก็เชื่อว่าจะผ่านรอบต่อไปได้ จะเจอใครก็ได้ ถ้าคิดว่าจะได้เหรียญก็ต้องผ่านให้ได้”