นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถิติการส่งออกข้าวไทยช่วงครึ่งปีแรกของปี 67 ช่วงเดือน ม.ค.-มิ.ย. มีปริมาณ 5.08 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 25.12% และมีมูลค่า 117,836 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.50% เป็นผลจากผู้นำเข้าข้าวมีความต้องการนำเข้าข้าวเพื่อใช้บริโภค และเก็บเป็นสต๊อกเพื่อความมั่นคงทางอาหาร ประกอบกับอินเดียยังคงใช้มาตรการควบคุมการส่งออกข้าว และค่าเงินบาทอ่อนค่าที่ 36–37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ราคาข้าวไทยแข่งขันได้

นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ประชุมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เพื่อหารือแนวโน้มการส่งออกข้าวไทยช่วงครึ่งหลังปี 67 โดยมีมองว่าประเทศผู้นำเข้าสำคัญอย่างฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ยังต้องการนำเข้าข้าวจากเอกชนผู้ส่งออกข้าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาผลกระทบเงินเฟ้อและภัยแล้ง โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์ มีคำสั่งปรับลดภาษีนำเข้าข้าวจากเดิม 35% เหลือ 15% จนถึงปี 71 ทำให้ในปีนี้ฟิลิปปินส์มีแนวโน้มนำเข้าข้าวถึง 4.70 ล้านตัน ขณะที่อินโดนีเซียมีแนวโน้มนำเข้าข้าว 3.6–4.3  ล้านตัน ขึ้นอยู่กับปริมาณผลผลิต จึงเป็นโอกาสในการส่งออกข้าวของประเทศผู้ส่งออก

นายรณรงค์ กล่าวว่า สำหรับปริมาณผลผลิตข้าวไทยที่จะทยอยออกไตรมาสสุดท้ายปีนี้ คาดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนและปริมาณน้ำ สำหรับเพาะปลูกเพิ่มขึ้นจากภาวะเอลนีโญคลี่คลายลง ส่งผลให้ราคาข้าวไทยมีแนวโน้มลดลง ดังนั้น กรมฯ และสมาคมฯ จึงปรับคาดการณ์การส่งออกข้าวไทยปี 67 เพิ่มขึ้นจากเดิมในช่วงต้นปีที่คาดการณ์ไว้ที่ปริมาณ 7.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นเป็น 8.2 ล้านตัน

อย่างไรก็ดี ต้องติดตามมาตรการการส่งออกข้าวของอินเดีย ซึ่งรัฐบาลอินเดียอาจผ่อนคลายมาตรการควบคุมการส่งออกข้าวก่อนผลผลิตข้าวฤดูกาลผลิตหลักจะออกสู่ตลาดในเดือน ต.ค. 67 อีกทั้งยังมีการคาดการณ์ว่าปริมาณผลผลิตข้าวของประเทศผู้ส่งออกข้าว ได้แก่ เวียดนาม ปากีสถาน เมียนมา และกัมพูชา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีผลผลิตข้าวในตลาดโลกเพิ่มขึ้นและแข่งขันด้านราคาค่อนข้างสูง ตลอดจนความผันผวนของค่าระวางเรือ

ดังนั้น ช่วง 5 เดือนสุดท้ายปีนี้มีแผนจัดกิจกรรมผลักดันการส่งออกข้าวไทย โดยจัดงานสำคัญหลายงาน เช่น ไทย ไรซ์ เน็ตเวอร์กิง  ฟอรัม 2024 เพื่อเชิญผู้เชี่ยวชาญในวงการค้าข้าวโลกมาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ตลาดข้าวโลก การจัดงาน ไทยแลนด์ ไรซ์ คอนเวนชัน สัญจร