เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ว่า โครงการเติมเงิน 10,000 บาทดิจิทัลวอลเล็ต ไม่มีการนำเข้าสู่การพิจารณาอีก เนื่องจากที่ประชุม ครม. รับทราบหลักการไปแล้ว สามารถดำเนินการลงทะเบียนได้ในวันที่ 1 ส.ค. นี้ และคาดว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ให้รับทราบอีกครั้ง เมื่อได้ยอดจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนขอรับสิทธิชัดเจนอย่างเป็นทางการ เช่นเดียวกับกระทรวงพาณิชย์ ที่สามารถดำเนินการแถลงถึงความชัดเจนในเรื่องของขั้นตอน และในส่วนของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งวันนี้จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อตรวจสอบถึงความพร้อมต่างๆ
เมื่อถามว่ารายละเอียดโดยเฉพาะของผู้ป่วยติดเตียง ได้มีการระบุขั้นตอนที่ชัดเจนแล้วหรือยัง รวมทั้งผู้ป่วยบางประเภทที่ยังไม่ถึงขั้นเป็นผู้พิการ แต่ไม่สามารถไปใช้จ่ายด้วยตัวเองได้ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยและหารือในประเด็นดังกล่าวแล้ว แต่จะต้องมีการเช็กรายละเอียดอีกครั้งร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในส่วนของผู้พิการจะต้องมีกระบวนการยืนยันตัวตนว่าเป็นผู้ป่วยประเภทใด เพราะในการใช้เงินในโครงการดังกล่าว จะมีความแตกต่างกัน แต่การลงทะเบียนไม่แตกต่าง ใครมีมือถือระบบสมาร์ตโฟนก็ใช้ระบบดังกล่าว ใครไม่มีก็ใช้บัตรประชาชน ในส่วนของผู้ที่ไม่มีสมาร์ตโฟนนั้น จะมีการประกาศความชัดเจนว่าให้ลงทะเบียน ณ สถานที่แห่งใดในช่วงกลางเดือน ก.ย. นี้
เมื่อถามถึงข้อกังวลของหลายฝ่าย หากสภาผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ในวาระ 2-3 จะสุ่มเสี่ยงต่อข้อกฎหมายอะไรหรือไม่ เพราะมีการมองว่าเป็นการใช้งบเหลื่อมปีไปแล้ว นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ในการพิจารณาของคณะกรรมมาธิการวิสามัญฯ ได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึง 8 หน่วยงาน ตามที่ทุกฝ่ายร้องขอและได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจให้มีความเข้าใจตรงกัน
ส่วนการที่มีบางฝ่ายมีข้อห่วงใยว่าจะสุ่มเสี่ยงต่อข้อกฎหมายนั้น ก็เป็นการชี้ชัดแล้วว่า มีการดำเนินการทุกอย่างถูกต้อง ซึ่งหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านกฎหมายก็ยืนยันชัดเจนว่าเป็นไปตามกรอบ สามารถดำเนินการได้ และทั้ง 8 หน่วยงานที่เชิญมา ให้ความมั่นใจว่าเราดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว