เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งย่านนนทบุรี พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชันและกองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับกุม นายมงคล (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาตลิ่งชันในความผิดฐาน กระทำความผิดฐานกระทำโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่สำนักงานอัยการสูงสุด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน สำนักงานอัยการสูงสุดโดยไม่มีสิทธิ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ และ พ.ร.บ.เครื่องหมายราชการ พ.ศ. 2482 ตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 141 วรรคหนึ่ง กรณี นายมงคล มีพฤติการณ์โพสต์ภาพตนเองขณะแต่งกายเครื่องแบบปกติขาวของข้าราชการฝ่ายอัยการประดับเครื่องหมายคล้ายเครื่องหมายของสำนักงานอัยการสูงสุด ในลักษณะเผยแพร่โดยสาธารณะ ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เพื่อให้เข้าใจได้ว่านายมงคล เป็นข้าราชการฝ่ายอัยการ โดยมีลักษณะการกระทำแอบอ้างในลักษณะดังกล่าวหลายครั้ง
สำหรับคดีนี้เดิมทางสำนักงานอัยการสูงสุดโดยคณะกรรมการอัยการได้รับการร้องเรียนให้ชี้แจงกรณีที่มีการสอบถามเกี่ยวกับสถานะของนายมงคล ซึ่งแสดงตนในสถานที่หลายแห่งว่าเป็นที่ปรึกษาอธิบดีอัยการสำนักงาน การสอบสวน ซึ่งพบหลักฐานในสื่อสังคมออนไลน์ บัญชีผู้ใช้งานแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก ทางอัยการสำนักงานการสอบสวนได้ตรวจสอบพบว่าเมื่อช่วงปี พ.ศ. 2565 นายมงคล เป็นที่ปรึกษาอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนในลักษณะที่ปรึกษาส่วนตัว โดยไม่ได้จัดพื้นที่หรือห้องให้ปฏิบัติงาน และเพื่อให้ได้ความชัดเจนอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน จึงได้มอบหมายคณะตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำของนายมงคล ว่ามีการกระทำที่อาจเข้าข่ายในทางที่ให้เกิดความเสียหายต่อสำนักงานการสอบสวน และสำนักงานอัยการสูงสุดและให้รายงานการตรวจสอบพร้อมความเห็นประกอบการพิจารณาเพื่อรายงานอัยการสูงสุดต่อไป
เมื่อคณะตรวจสอบข้อเท็จจริงได้พิจารณาเกี่ยวกับการกระทำของนายมงคล พบว่า การกระทำของนายมงคล ที่โพสต์ภาพตนเองขณะแต่งกายเครื่องแบบปกติขาวของข้าราชการฝ่ายอัยการ โดยประดับเครื่องหมายคล้ายเครื่องหมายของสำนักงานอัยการสูงสุดในลักษณะเผยแพร่โดยสาธารณะ ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ และเข้าใจได้ว่านายมงคล เป็นข้าราชการฝ่ายอัยการ อาจเป็นการกระทำที่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 141 และ พ.ร.บ.เครื่องหมายราชการฯ มาตรา 6,8 และการตรวจสอบพบว่านายมงคล มิได้มีสถานะข้าราชการอัยการ และยังได้แต่งกายเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของสำนักงานอัยการสูงสุดโดยไม่มีสิทธิ
เจ้าพนักงานคดี สำนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวนจึงดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับนายมงคล เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ต่อพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน และยังพบว่ามีพยานพบเห็นนายมงคลยังมีพฤติการณ์แต่งกายคล้ายเครื่องแบบปกติขาวและกากี และเครื่องหมายแสดงสังกัดสำนักงานอัยการสูงสุดผ่านทางแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรมอีกหลายสิบครั้ง จนอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้แจ้งความดำเนินคดีกับนายมงคลเพิ่มเติมอีกเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2567 จนมีการขอออกหมายจับและศาลอนุญาตออกหหมายจับเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. จนมีการบุกจับกุมตัวนายมงคลได้เมื่อวันที่ 25 ก.ค. โดยขณะถูกจับกุมใส่ชุดเลียนแบบข้าราชการอัยการแบบเต็มยศและต่อมาภายหลังได้รับการประกันตัว
สำหรับการดำเนินคดี พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ได้สรุปสำนวนมีความเห็นทางคดี เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมาส่งพนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาตลิ่งชัน 2 พิจารณาดำเนินการ จนภายหลังจับกุมได้ตัวมาตามหมายจับของศาล ทราบว่าขณะนี้พนักงานอัยการมีคำสั่งให้ทำการสอบสวนเพิ่มเติมโดยนัดหมายสอบคำให้การผู้กล่าวหาเพิ่มเติมในวันที่ 31 ก.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายมงคล มีปรากฏภาพและข่าวตามสื่อมวลชนในงานของหน่วยราชการต่างๆ เช่น พิธีประดับยศของข้าราชการ หรืองานจัดอบรมตำแหน่งสำคัญของข้าราชการในบางกระทรวง และยังมีพฤติการณ์ไปพบปะบุคคลระดับสูงของหน่วยงานราชการต่างๆ จนมีผู้หลงเชื่อว่าเป็นข้าราชการฝ่ายอัยการจริง และพบว่ายังมีพฤติการณ์อื่นๆ นอกจากเรื่องแสดงตัวเป็นอัยการ ที่ถูกร้องเรียนไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดอีก