เดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ถือเป็นช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของการเมืองไทย หลังศาลรัฐธรรมนูญนัดชี้ชะตา 2 คดีใหญ่ คือคดียุบพรรคก้าวไกล ในคดีล้มล้างการปกครอง ซึ่งศาลนัดพิจารณาในวันที่ 7 ส.ค. ตามด้วยคดีของ ‘เสี่ยนิด’เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาสัปดาห์ถัดไปในวันที่ 14 ส.ค. รวมทั้งการได้รับอิสรภาพของ “นายใหญ่”ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังวันที่ 22 ส.ค.นี้
ในส่วนของคดียุบพรรคก้าวไกล แม้ 2 แม่ทัพคนสำคัญ “ชัยธวัช ตุลาธน”หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ต่างออกมาประสานเสียง ว่า มั่นใจในพยานหลักฐาน ข้อต่อสู้ การต่อสู้คดี และพรรคจะไม่ถูกยุบแน่นอน
“พูดถึงความเห็นของหลาย ๆ คนที่ผมพบปะด้วย จากเดิมช่วงตอนเริ่มต้นคดีคนเกือบจะ 100% ฟันธงไปแล้ว เมื่อมีคำวินิจฉัยที่ 3/2567 ออกมาพรรค ก้าวไกลน่าจะถูกยุบแน่นอน แต่หลังจากนั้นจนมาถึงปัจจุบัน ความคิดเห็นเริ่มจะเปลี่ยน ในหลาย ๆ คนโดยเฉพาะหลังจากฟังแนวทางการต่อสู้ของพรรคก้าวไกล รวมถึงอาจจะประเมินสถานการณ์ทางการเมืองที่อาจจะเปลี่ยนแปลงไปด้วย ก็เห็นว่า พรรคก้าวไกลอาจจะมีโอกาสชนะคดีนี้ก็ได้”ชัยธวัชระบุ
อย่างไรก็ตามล่าสุดวันที่ 28 ก.ค.พรรคก้าวไกล ได้จังหวะปล่อยคลิป “จากอนาคตใหม่ สู่ก้าวไกล สู่อนาคต” ผ่านเฟซบุ๊กปลุกขวัญด้อมส้ม ระบุว่า คดียุบพรรคที่ก้าวไกลกำลังเผชิญอยู่ ย่อมไม่ต่างกับสิ่งที่พรรคอนาคตใหม่เผชิญเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หรือพรรคการเมืองต่างๆ เจอมาในรอบเกือบ 20 ปี การยุบพรรคอาจยุบได้แค่องค์กรนิติบุคคล แต่ไม่สามารถหยุดอุดมการณ์เช่นนี้ได้ และเราจะเดินหน้ามันต่อไป ไม่ว่าวันที่ 7 ส.ค.นี้จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม …เป็นสิ่งสะท้อนถึงความไม่มั่นใจถึงชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือไม่
มากันที่พรรคเพื่อไทยเองก็ยังต้องอกสั่นขวัญแขวนกับคดีของ “เสี่ยนิด” ไม่แพ้กันกับพรรคก้าวไกล เพราะหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไปในทางเลวร้ายที่สุด “เสี่ยนิด” ไม่รอด จะส่งผลให้ ครม.ร่วงกันทั้งคณะ เท่ากับต้องล้างไพ่เลือกนายกฯ และฟอร์มทีม ครม.กันใหม่อาจจะเป็นเรื่องใหญ่ต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและการเมืองไทยในขณะนี้ ซึ่งคงเลี่ยงไม่พ้นเกมพลิกขั้วย้ายค่ายฝุ่นตลบเหมือนหลายครั้งหลายหนที่ผ่านมา เมื่อกระบวนการตุลาการภิวัตน์ รัฐประหารด้วยกฎหมาย หรือจะเรียกอะไรก็ตามแต่ที่ยังคงถูกนำมาใช้ในสังคมการเมืองไทยออกฤทธิ์ออกเดชที่สำคัญช่วงเวลาประจวบเหมาะ หากพรรคก้าวไกลโดนศาลรัฐธรรมนูญฟันยุบพรรคไปด้วยแล้ว ภาวะผึ้งแตกรังย่อมเกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่พ้น มหกรรมช้อปปิ้งชิงตัวงูเห่าครั้งใหญ่เพื่อนำไปต่อรองเก้าอี้นายกฯ จากพรรคการเมืองหรือค่ายต่างๆ มีสิทธิ์เกิดขึ้นให้เห็นกันได้อีกแน่นอน
จากนี้จึงต้องจับตากันว่าเดือน ส.ค.ที่กำลังจะเดินมาถึงนี้ การเมืองไทยจะเดินไปสู่เส้นทางใด.