เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย กล่าวภายหลังเป็นประธาน ส่งมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคในโครงการ “มีแล้วแบ่งปัน” ให้กับสำนักงานเขตดุสิต ถึงกรณีที่ ศบค. มีคำสั่งล็อกดาวน์ 14 วันจะกระทบต่อการประชุมสภาหรือไม่ว่า ทางสภาก็รอฟังมติจากที่ประชุม ศบค.อยู่ ว่ามีรายละเอียดอย่างไร โดยทางสภายินดีให้ความร่วมมือและมีส่วนร่วมในการป้องกันการขยายการติดเชื้อ ส่วนจะงดการประชุมสภาหรือไม่นั้น ถ้ายังไม่มีอะไรก็เป็นไปตามระเบียบวาระ แต่ทั้งนี้ต้องรอดูมติของ ศบค.ก่อนว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งเราก็ต้องปฏิบัติตามนั้น  อย่างไรก็ตามในขณะที่วัคซีนยังไม่พร้อมและมีจำกัด ขอให้ทุกคนสวมใส่หน้ากากอย่างจริงจัง แทนที่เราจะรอวัคซีนโดยไม่ป้องกันตัว ไม่ใช่ว่ามีวัคซีนแล้วจะไม่ติดเชื้อดังนั้นทุกคนต้องระมัดระวังตัวเอง ในส่วนของสภาเองได้กำชับเลขาธิการสภาฯ และเจ้าหน้าที่ให้ตรวจเข้มทุกคน ไม่ต้องไปเกรงใจใคร  

เมื่อถามว่าหากเกิดมีการล็อกดาวน์จะงดการประชุมสภาใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า “ครับ ถ้าเห็นว่ามีความจำเป็นต้องให้ความร่วมมือก็ยินดีให้ความร่วมมือ แต่ที่ผ่านมาทาง ศบค.เคยมีคำสั่งอนุมัติให้สภาสามารถประชุมได้ตลอดสมัยการประชุมนี้ แต่หากสถานการณ์เปลี่ยนและเห็นว่ามีความจำเป็นจะต้องปิดการเดินทาง และระงับการเคลื่อนไหวต่างๆ ก็ยินดีให้ความร่วมมือ”  

เมื่อถามว่าจะกระทบต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ที่มีกรอบระยะเวลา 105 วันหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตนจะรอมติของ ศบค. ว่าจะออกมาอย่างไร จากนั้นก็จะเชิญตัวแทนวิป 3 ฝ่าย มาหารือร่วมกันในวันที่ 12 ก.ค.นี้ เพื่อหารือและมีความเห็นร่วมกัน หากมีความจำเป็นจะต้องเลื่อนการประชุมออกไปกี่วัน เพื่อไม่ให้มีความขัดแย้ง   

ต่อข้อถามถึงกรณีที่มีกระแสเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาเสียสละเงินเดือนเพื่อช่วยเหลือประชาชนในวิกฤติโควิด-19 นายชวน กล่าวว่า เรื่องเงินเดือนนั้นแล้วแต่ความสมัครใจ แต่ข้อเท็จจริงแล้ว ตามปกติจำนวนค่าใช้จ่ายที่ ส.ส.แต่ละคนใช้ในระหว่างที่มีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 มากกว่าเงินเดือนหลายเท่า เพราะตนไปดูด้วยตัวเอง ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน ยกตัวอย่าง บ้านนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ว่ามีการช่วยชาวบ้านอย่างไร ทั้งน้ำ ข้าวสาร หน้ากากอนามัยที่เป็นของตัวเองทุกอย่าง เช่นเดียวกับตนแม้ไม่ได้มีเขตเลือกตั้งเป็นของตัวเอง แต่ก็ต้องดูแลพื้นที่จังหวัดของตัวเองที่มีชาวบ้านเดือดร้อนด้วยการจัดอาหารให้กับชาวบ้านตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเวลานี้ยังไม่มี ส.ส.แสดงความประสงค์จะให้หักเงินเดือน  

“ค่าใช้จ่ายเหล่านี้หากเทียบกับเงินเดือนถือว่ามากกว่า แต่หากใครมีความพร้อมให้หักเงินเดือน ก็สามารถทำได้ ถือเป็นเรื่องดี แต่ผมไม่คาดคั้น เพราะเราอยู่ในโลกความเป็นจริง ทราบว่า ส.ส.จ่ายมากกว่าเงินเดือน นี่คือของจริง ส.ส.ใครไม่ดูแลชาวบ้านในยามนี้ก็มีปัญหา เราก็เห็นอยู่ว่าทุกคนขอปลากระป๋อง ขอข้าวสาร และขออะไรต่างๆ จากพรรคพวก เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่มีปัญหา และทุกวันนี้ก็ยังทำกันอยู่ ผมจึงไม่คาดคั้นว่าทุกคนจะต้องเสียสละเงินเดือน เพราะเมื่อตอนเกิดเหตุตั้งแต่ปีที่แล้ว สภาได้รวบรวมเงินไปมอบให้กับโรงพยาบาลต่างๆ  ทั้งโรงพยาบาลศิริราช รามาธิบดี จุฬาลงกรณ์ และธรรมศาสตร์ ตอนนี้ก็รู้ว่ากำลังพรรคพวกอ่อนลง ก็ไม่ไปคาดคั้น เพราะในส่วนที่บ้านของแต่ละคนก็ยังทำอยู่ บ้านผมก็ยังทำอยู่เป็นระยะๆ” นายชวน กล่าว