สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ว่า สำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติสิงคโปร์ (เอ็นอีเอ) พบว่า ระหว่างวันที่ 14 ก.ค.-22 ก.ค. ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกสูงถึง 267 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศของปีนี้ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 10,141 ราย ขณะที่จำนวนผู้ป่วยไข้เลือกออกตลอดปี 2566 อยู่ที่ 9,949 ราย ซึ่งต่ำกว่ายอดผู้ป่วย 32,173 ราย เมื่อปี 2565
เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา เอ็นอีเอเตือนถึงการติดเชื้อไข้เลือดออกที่เพิ่มขึ้น หลังตัวเลขผู้ป่วยพุ่งสูงนอกฤดูไข้เลือดออก ซึ่งอยู่ระหว่างเดือน พ.ค.-ต.ค. ของทุกปี พร้อมระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากยุงลายมีปริมาณมาก และประชากรส่วนใหญ่ไม่มีภูมิต้านทาน
นพ.ซู หลี่ หยาง ที่ปรึกษาด้านโรคติดเชื้อ กล่าวว่า สิงคโปร์อาจกำลังจะเผชิญกับการระบาดของโรคไข้เลือดออก อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ป่วยในปีนี้ยังต่ำกว่าในปี 2563 ซึ่งมีจำนวนสูงถึง 35,315 ราย และผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 32 ราย เนื่องจากสภาพอากาศที่อบอุ่นและชื้นเอื้อต่อการอยู่รอดของยุง และการทำงานที่บ้านในช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาด ส่งผลให้ผู้คนมีโอกาสถูกยุงกัดมากขึ้น
ทั้งนี้ ประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่คลัสเตอร์ไข้เลือดออก สามารถป้องกันโรคได้ ด้วยการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงตามมุมมืดรอบบ้าน ทายากันยุงเป็นประจำ และสวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว
แนวโน้มการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ตามการประเมินขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) และนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2566 การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกทั่วโลก ส่งผลให้มีผู้ป่วยมากกว่า 5 ล้านราย ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงเกือบเป็นประวัติการณ์ และมีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกมากกว่า 5,000 ราย ในมากกว่า 80 ประเทศ.
เครดิตภาพ : AFP