เมื่อวันที่ 23 ก.ค.67 นายภัคพัส ส่งวัฒนายุทธ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วย พลตำรวจตรีกิตติ สุขสมภักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี นายจงรัก เพชรเสน นายอำเภอท่ายาง น.ส.จารุวรรณ เชิงชาญวิทญ์ หัวหน้าพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เพชรบุรี ผกก.สภ.ท่าไม่รวก ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเพชรบุรี ตำรวจตชด.144 ตำรวจ ตม.เพชรบุรี กอ.รมน.จังหวัดเพชรบุรี จัดหางาน เพชรบุรี บ้านพักเด็กและสตรีจังหวัดเพชรบุรี และ ฝ่ายปกครองอำเภอท่ายาง ร่วมกันจับกุมตัว ชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองที่กำลังเตรียมไปประเทศที่3 มาเลเซีย จำนวน 85 ราย เป็นชาย 73 ราย หญิง 9 ราย เด็กชาย 1 ราย และ หญิง 2 ราย ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในป่า หลังบ้าน หมู่ 2 ต.เขากระปุก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ของ น.ส.สุพัชชา ก่อนนำตัวทั้งหมดมาสอบสวนและทำประวัติ สภ.ท่าไม้รวก
จากการสอบสวนทราบว่า เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนขยายผลจนสามารถควบคุมตัว นายอารี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ได้ที่บ้านพัก ถนนสามพระยา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยนายอารี ให้การว่า เมื่อดึกวันที่ 22 ก.ค. ได้มีนายนัด(ไม่ทราบชื่อสกุล) ติดต่อมาหาตน และบอกว่าจะฝากเด็กไว้ไม่นาน ต่อมาให้ตนนำพาเด็กขี่ใช้จักยานยนต์นำเข้าไปส่งยังในป่า บริเวณหลังบ้านหลังดังกล่าว หมู่ 2 ต.เขากระปุก อ.ท่ายาง ที่เกิดเหตุ โดยรับค่าจ้างมา 3,000บาท ก่อนมาถูกเจ้าที่จับกุมได้ดังกล่าว
นายอารียังให้การต่อว่า กลุ่มคนดังกล่าวขับรถกระบะมาร่วม 3 คัน หลังเกิดเหตุได้ขับหลบหนีออกไปจากหมู่บ้านโดยไม่ทราบไปเส้นทางใด โดยชาวเมียนมาที่หลบหนีเข้าเมือง ได้ลักลอบเดินทางข้ามชายแดนมาตามเส้นทางธรรมชาติในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก มาสถานที่แห่งนี้เพื่อพักคอยเตรียมจะเดินทางไปขายแรงงานในพื้นที่ประเทศมาเลเซีย โดยมีคนไทยซึ่งเป็นคนในพื้นที่ 3ราย ค่อยให้การช่วยเหลือ โดยจะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับนายหน้าชาวเมียนมาผู้ใหญ่คนละ 60,000 เด็กอายุไม่ถึง 18 ปี คนละ 30,000 บาท
ทางหัวหน้าพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบุรี ได้นำตัวเยาว์ชนชาวเมียนมา ชาย-หญิงจำนวน10ราย ไปดูแลตามสวัสดิ์การที่บ้านพักเด็กเพชรบุรีก่อนที่จะพลักดันกลับประเทศ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาชาวเมียนมาทั้งหมด ร่วมกันลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการผลักดันกลับประเทศต่อไป.