นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กยศ. ได้ดำเนินการคำนวณยอดหนี้ใหม่ให้กับผู้กู้ยืมกว่า 3.65 ล้านบัญชี โดยผู้กู้ยืมสามารถตรวจสอบยอดหนี้ที่คำนวณใหม่ได้ที่หน้าเว็บไซต์ กยศ. www.studentloan.or.th ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 67 เป็นต้นไป ซึ่งจะมีผู้กู้ยืมได้รับประโยชน์หลังจากคำนวณยอดหนี้ใหม่กว่า 2.98 ล้านราย อาทิ มียอดหนี้ลดลง บางรายสามารถปิดบัญชีได้ และบางรายได้รับเงินคืน โดยภาพรวมมีภาระหนี้ลดลง 56,326 ล้านบาท
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการ กยศ. กล่าวว่า รายละเอียดหลังจากการคำนวณหนี้ใหม่ จะมีผู้ได้รับประโยชน์ ประกอบด้วย ผู้กู้ยืมมียอดหนี้ที่ต้องชำระลดลง 2.8 ล้านราย ผู้กู้ยืมที่มียอดชำระหนี้ครบถ้วนและสามารถปิดบัญชีได้ 177,936 ราย มีผู้จะได้รับเงินคืน 177,917 ราย เป็นเงิน 2,104 ล้านบาท เริ่มทยอยคืนเงิน ตั้งแต่ 1 ต.ค. 67 สามารถหยุดหักเงินเดือนผ่านองค์กรนายจ้าง 18,326 ราย
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ยังมีลูกหนี้ กยศ. ที่ผิดนัดชำระหนี้ 2.1 ล้านราย มูลหนี้ 9.6 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 39% ของพอร์ต โดยเฉลี่ย ลูกหนี้ 1 คน มูลหนี้ 1.2 แสนบาท ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า ขณะนี้อัตราการผ่อนชำระหนี้ลดลง 8% ซึ่งมองว่าเป็นผลกระทบชั่วคราว หากมีการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้ทุกคนแล้ว เชื่อว่าลูกหนี้จะกลับมาชำระหนี้ได้ปกติ
“ตอนนี้มีลูกหนี้ที่เข้ามาทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้วเกือบ 9 หมื่นราย ซึ่งหลังจากวันที่ 1 ส.ค. 67 ที่เปิดให้ลูกหนี้ตรวจสอบผลการคำนวณหนี้ใหม่ คาดว่าจะมีการเข้ามาปรับโครงสร้างหนี้เพิ่มขึ้น โดยยืนยันว่า การคำนวณหนี้ใหม่ไม่มีผลกระทบต่อสภาพคล่องของกองทุน ปัจจุบันมีเงินหมุนเวียนอยู่ 1 หมื่นล้านบาท มีรายรับจากการชำระหนี้เข้ามาเดือนละ 2,000-3,000 ล้านบาท”
นายชัยณรงค์ กล่าวว่า กยศ. อยู่ระหว่างหารือร่วมกับสำนักงบประมาณ เพื่อขอใช้งบประมาณมาเพิ่มสภาพคล่องกองทุนในปีงบ 68 อีก 1.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับการจัดสรรงบประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการบริหารจัดการ และปีการศึกษานี้ กยศ. ยังพร้อมที่ปล่อยกู้ทางการศึกษาให้กับนักเรียน นักศึกษา 4.8 หมื่นล้านบาท
สำหรับการคำนวณยอดหนี้ใหม่ข้างต้นเป็นการคำนวณหนี้โดยไม่ใช้ระบบ กยศ. Connect ซึ่งเป็นข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 66 โดยได้นำรายการชำระหนี้ของผู้กู้ยืมเงินแต่ละรายที่ได้ชำระเงินคืนกองทุนฯ นับแต่วันที่ครบกำหนดชำระหนี้ครั้งแรกมาคำนวณหนี้ใหม่ตัดชำระเงินต้นเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับตามลำดับ คิดดอกเบี้ยในอัตรา 1% ต่อปี และคิดเบี้ยปรับในอัตรา 0.5% ต่อปี
ทั้งนี้ หากผู้กู้ยืมประสงค์จะปรับโครงสร้างหนี้ กองทุนฯ จะใช้ยอดหนี้ที่ได้คำนวณใหม่นี้ในการทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้เพื่อปลดภาระผู้ค้ำประกันให้พ้นจากความรับผิด และเมื่อระบบ กยศ. Connect ปรับปรุงเสร็จสมบูรณ์แล้ว ยอดหนี้ทั้งหมดจะถูกปรับโดยอัตโนมัติและจะแสดงในแอปพลิเคชัน กยศ. Connect ต่อไป