เหตุ “ลอบสังหาร“ ที่เป้าคือ “โดนัลด์ ทรัมป์“ แม้ผ่านมาหลายวันแล้ว และทรัมป์ไม่ได้ถึงแก่ชีวิต แต่ก็ “มีผู้เสียชีวิต” ซึ่ง “ทั่วโลกยังคงอึ้ง!!” รวมถึงกับ “ไทย“ ที่ล่าสุดยิ่งมีเหตุ “6 ศพย่านราชประสงค์“ ก็“ยิ่งชวนอึ้ง!!-ยิ่งน่าคิด!!“… กรณีทรัมป์นั้น แม้จะเป็นแค่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แต่ก็ถือเป็นบุคคลสำคัญของสหรัฐและ “สหรัฐอเมริกา” ถือเป็น “ประเทศพี่เบิ้มของโลก” ดังนั้นกระแสต่าง ๆ ที่เกิดตามมาย่อมมิใช่กระแสเล็ก ๆ และไม่เฉพาะในสหรัฐ โดยในไทยก็เกิดกระแสวิพากษ์และผลพวงจากเหตุการณ์นี้ ขณะที่กรณีชาวต่างชาติสัญชาติเวียดนามและอเมริกัน “เสียชีวิตรวม 6 คนในเมืองใหญ่เมืองหลวงของไทย“ไม่ว่ามูลเหตุคืออะไร? ใครก่อเหตุ? ในอีกมุมที่ไม่เกี่ยวกับเหตุโดยตรง…ก็ชวนอึ้งและน่าคิดด้วยเช่นกัน…
“ที่เกิดเหตุ“ และ “จำนวนผู้ก่อเหตุ“…
“ในเขตเมือง?“และ “โดยคนเดียว?“
จากกรณีสหรัฐมาถึงไทย…“น่าคิด??“
ทั้งกับเหตุ “ลอบยิง-ลอบสังหาร” อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ “โดนัลด์ ทรัมป์” ในสหรัฐอเมริกา และเหตุ “ต่างชาติเสียชีวิต 6 คนรวดในเมืองใหญ่ในไทย” ถึงวันนี้มีข่าวคืบหน้าอย่างไร? มีประเด็นอะไรใหม่อีกหรือไม่? ก็ดังที่ทราบ ๆ กัน…ก็ว่ากันไป… อย่างไรก็ตาม บางแง่บางมุมจากเหตุการณ์ที่ทั่วโลกต่างอึ้ง และเหตุที่ทำให้ไทยยิ่งอึ้ง ก็ “ชวนให้คิดต่อเนื่อง“ ไปถึงกรณี “ภัยความรุนแรงยุคใหม่“รวมถึง “ภัยก่อการร้ายสมัยใหม่“ ที่อาจจะไม่ใช่เรื่องไกลตัวคนไทยก็ได้?? ซึ่งภัยความรุนแรงยุคใหม่ รวมถึงภัยก่อการร้ายสมัยใหม่นั้น…มีการศึกษาพบว่า “เป้าก่อเหตุ“ ในยุคนี้ “เปลี่ยนไป“และ“มีรูปแบบใหม่ ๆ“…
ที่…“ต่างไปจากยุคอดีตค่อนข้างเยอะ“
เกี่ยวกับ “ภัยความรุนแรงยุคใหม่-ก่อการร้ายสมัยใหม่”… นี่เป็นเรื่องที่ ไทยก็ต้องให้ความสำคัญ!!สังคมไทยก็น่าจะตระหนัก “มิติที่เปลี่ยนไปของผู้ก่อเหตุร้ายในยุคใหม่“ซึ่งวันนี้ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” จะสะท้อนต่อข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเป็นข้อมูลจากบทความวิชาการชื่อ “ภัยคุกคามจากการก่อการร้ายต่อเมืองใหญ่ในปัจจุบัน (The Current Terrorist Threat to Major Cities)” ที่ได้สะท้อนไว้ถึง “พัฒนาการก่อการร้ายสมัยใหม่-ความเปลี่ยนแปลงของการก่อการร้าย” ในหลายมิติ โดยบทความนี้จัดทำโดยนักวิชาการคือ… สุรชาติ บำรุงสุข, ฉัตรพงศ์ ฉัตราคม, สัญญา ทองบุศย์, กุลนันทน์ คันธิก, ศิบดี นพประเสริฐ ซึ่งมีการเผยแพร่อยู่ใน วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ปีที่ 16 ฉบับที่ 2 พ.ค.-ส.ค. 2564
“เมืองใหญ่’ ยุคนี้ดูจะ “ยิ่งเป็นเป้า“
“เหตุการณ์ร้าย“ และ “ก่อการร้าย“
ทั้งนี้ คณะนักวิชาการผู้จัดทำบทความนี้ระบุวัตถุประสงค์การศึกษาเรื่องนี้ไว้ว่า…มีเป้าหมายศึกษาปัญหาที่ “เมืองใหญ่ของโลกกำลังเผชิญกับภัยคุกคาม“ ในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะจากการก่อการร้ายในพื้นที่เขตเมือง ที่การศึกษาพบว่า…หลังจาก การก่อการร้าย ความรุนแรง ความขัดแย้ง ได้เกิดทั่วทุกมุมโลก ทำให้ เกิดความเปลี่ยนแปลงของการสงคราม จนอาจนับเป็น “แบบแผนใหม่ของสงคราม” ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยผลการศึกษามี “ข้อค้นพบสำคัญ” ดังนี้…
ประการแรก… “เมืองกลายเป็นเป้าหมายหลัก” โดยการศึกษาพบว่า… ในเวทีโลก การใช้ความรุนแรง และเหตุก่อการร้าย ที่เกิดในบริบททางภูมิศาสตร์ มีความเปลี่ยนแปลงมาก ซึ่งจากเดิมในอดีตมักเป็นความรุนแรงในพื้นที่ชนบท แต่ขณะนี้ “พื้นที่เขตเมืองกลายเป็นโลกของความรุนแรง” ด้วยความที่ “ภูมิศาสตร์-คุณลักษณะ” ของ “ความเป็นเมือง“ มีความ “เปราะบาง“ ในตัวเอง ซึ่งการระวังป้องกันทำได้ยาก หรือเป็นเป้าหมายที่ ไม่มีความแข็งแรงที่ทนต่อการโจมตี ที่สำหรับผู้ก่อการร้ายนั้นจะใช้ประโยชน์ได้โดยตรง …ซึ่ง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ว่า น่าจะรวมถึงเหตุที่มิใช่ก่อการร้าย แต่เป็น…
“ก่อเหตุการณ์ร้ายแรงในพื้นที่เมือง“
ประการที่สองที่ในบทความระบุไว้คือ… “การเปลี่ยนแปลงของสงครามในโลกร่วมสมัย” ที่เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในมิติต่าง ๆ ได้แก่ แบบแผนการสงคราม, คู่สงคราม, เครื่องมือการสงคราม, การเปลี่ยนแปลงของนิยามของชัยชนะ เป็นต้น
ถัดมาประการที่สาม… “ความเปลี่ยนแปลงของการก่อการร้าย” ที่ยุคอดีตความรุนแรงมักเกิดในพื้นที่ห่างไกล แต่ ยุคใหม่กลายเป็นสงครามในเมือง เมืองกลายเป็นพื้นที่การประท้วง การกบฏต่อต้านอำนาจรัฐ นอกจากนี้ยังมีเรื่อง คุณลักษณะผู้ก่อเหตุ เช่นผู้ก่อการร้ายที่ปฏิบัติการในลักษณะ“หมาป่าตัวเดียว“หรือ“Lone wolf“ซึ่งพบบ่อยครั้งในปัจจุบัน ตลอดจน ความเปลี่ยนแปลงด้านอายุและเพศของผู้ก่อเหตุ รวมถึง แบบแผนความรุนแรงก็เปลี่ยนแปลง ไปด้วย
ในบทความวิชาการดังกล่าวระบุไว้ด้วยว่า… จากข้อค้นพบ สะท้อนว่า เมืองใหญ่ทั่วโลกเสี่ยงที่จะต้องเผชิญความรุนแรงไม่แตกต่างกัน!!ซึ่งการจะรับมือ “ต้องเตรียมความพร้อมของเมือง“ ผ่านมาตรการต่าง ๆ คือ… สร้างระบบงานที่ครอบคลุมระบบเมือง สร้างเมืองให้เข้มแข็ง สร้างระบบคุ้มครองผู้ปฏิบัติงาน สร้างการสื่อสารกับประชาชน สร้างระบบสื่อสารระหว่างหน่วยงาน สร้างการมีส่วนร่วมการตัดสินใจ สร้างระบบการบริหารงานฉุกเฉินในพื้นที่ …นี่เป็น “คำแนะนำน่าสนใจ”
“ยิงทรัมป์-6 ศพในไทย“ ก็ “น่าคิดต่อ“
“เหตุร้ายเขตเมือง“ นี่ “ยุคนี้ยิ่งเสี่ยง“
และ…“ในไทยเราก็มิใช่ไม่เสี่ยง!!!“.
