“ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” รายงานว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ประชุมร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และมีมติเปิดใช้เส้นทางเดินรถไฟโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะ (เฟส) ที่ 1 สายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ช่วงสถานีมาบกะเบา-สถานีมวกเหล็ก กม.134+250-กม.147+450 ระยะทาง 13.20 กิโลเมตร (กม.) และช่วงสถานีบันไดม้า-สถานีคลองขนานจิตร กม.168+500-กม.198+200 ระยะทาง 29.70 กม. และเปิดใช้งานอุโมงค์ผาเสด็จ และอุโมงค์หินลับ ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. 67 โดยยังคงใช้ระบบอาณัติสัญญาเดิม เนื่องจากปัจจุบันยังติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณใหม่ยังไม่แล้วเสร็จ
รฟท. อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน เพื่อให้การเดินรถ และการให้บริการเกิดความปลอดภัยสูงสุด รวมทั้งได้จัดฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุฉุกเฉินในอุโมงค์ผาเสด็จ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมติดตามความคืบหน้าจากการตรวจสอบความพร้อม และซักซ้อมการเตรียมเปิดเดินรถของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันจะร่วมกันพิจารณาแผนการทำงานในการเปิดให้บริการเดินรถไฟทางคู่ในช่วงดังกล่าว และช่วงอื่นๆ ของสายอีสานด้วย ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ได้เน้นย้ำให้ รฟท. เร่งเปิดบริการตลอดสายให้ได้ภายในปลายปี 68 ซึ่งหากทั้งโครงการแล้วเสร็จ จะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปนครราชสีมา จากเดิม 3 ชั่วโมง เหลือ 2 ชั่วโมง
ปัจจุบันงานโยธาโครงการรถไฟทางคู่ เฟสที่ 1 สายอีสาน ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 2.99 หมื่นล้านบาท กำลังเร่งแก้ไขในจุดที่เป็นปัญหา โดยสัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร คืบหน้า 96.36% ช้ากว่าแผน 3.64% ยังอยู่ระหว่างการเวนคืนที่ดินของเอกชน เนื่องจาก พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดินหมดอายุไปตั้งแต่ปี 64 สร้างต่อไม่ได้ โดยเฉพาะทางลงรถไฟยกระดับที่สูงที่สุดในประเทศไทย จึงต้องเวนคืนด้วยวิธีการเจรจาปรองดอง ซึ่ง รฟท. กำลังขออนุมัติงบประมาณเวนคืนเพิ่มเติม 197.38 ล้านบาท หากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ คาดว่าจะเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จประมาณเดือน ธ.ค. 68
ส่วนสัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 69 กม. อยู่ระหว่างปรับรูปแบบการก่อสร้างบริเวณสะพานสีมาธานี และพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์ มีความคืบหน้า 98.18% ช้ากว่าแผนงาน 1.81% คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน ส.ค. 67 โดยอุโมงค์ที่ 1-2 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 100% ส่วนอุโมงค์ที่ 3 บริเวณลำตะคอง อยู่ระหว่างการสร้างทางออกอุโมงค์ ต่อเชื่อมกับสัญญาที่ 2ประมาณ 200 เมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน ธ.ค. 67
สำหรับงานอุโมงค์เส้นทางดังกล่าว มี 3 อุโมงค์ โดยอุโมงค์ที่ 1 ตั้งอยู่ระหว่างสถานีมาบกะเบา สถานีผาเสด็จ และสถานีหินลับ จ.สระบุรี มีลักษณะเป็นอุโมงค์คู่ ทางเดี่ยว กว้างประมาณ 7.50 เมตร สูงประมาณ 8.50 เมตร และยาวประมาณ 5.20 กม. เป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย อุโมงค์ที่ 2 ตั้งอยู่ระหว่างสถานีหินลับ และสถานีมวกเหล็ก จ.สระบุรี มีความยาว 250 เมตร และอุโมงค์ที่ 3 ตั้งอยู่ระหว่างสถานีคลองขนานจิตร อ.ปากช่อง และสถานีคลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีความยาวประมาณ 1.17 กม.
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า การเดินรถไฟทางคู่สายอีสาน ที่จะเริ่มเปิดบริการตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. 67 จะเดินรถผ่าน 6 สถานีใหม่ โดยเริ่มจากสถานีมาบกะเบา เดินรถเข้าอุโมงค์ที่ 1 และ 2 จากนั้นเบี่ยงขวาเดินรถทางเดี่ยวเข้าสถานีมวกเหล็ก (เก่า) สาเหตุที่ยังไม่สามารถวิ่งทางคู่เข้าไปสถานีมวกเหล็ก (ใหม่) ได้ เนื่องจากทางลงทางรถไฟยกระดับยังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องวิ่งทางเดี่ยวเดิมไปก่อน เมื่อถึงสถานีมวกเหล็ก (เก่า) จะวิ่งทางเดี่ยวไปยังสถานีบันไดม้า ก่อนจะเริ่มเดินรถทางคู่ไปยังสถานีปากช่อง, สถานีซับม่วง, สถานีจันทึก และสถานีคลองขนานจิตร ทั้งนี้ การเปิดเดินรถไฟทางคู่ช่วงดังกล่าว แม้จะยังมีระยะทางไม่มาก แต่จะสามารถช่วยลดระยะเวลาเดินทางได้ประมาณ 15-20 นาที และลดความล่าช้า (ดีเลย์) ของขบวนรถไฟได้.