เมื่อวันที่ 15 ก.ค. นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ทอท. ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ, กรมการกงสุล และกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) 2 เปิดศูนย์ประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกอุตสาหกรรมไมซ์ (Thailand MICE One Stop Service) โดยเฉพาะการเดินทางเข้าเมืองของนักเดินทางไมซ์ต่างชาติ เพื่อลดทอนขั้นตอน และเวลาในกระบวนการสำคัญ อาทิ การขอวีซ่า การตรวจคนเข้าเมือง และการต้อนรับเมื่อมาถึงสนามบิน รวมทั้งการอำนวยความสะดวกในการประสานงานเพื่อนำเข้าสินค้า วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือสำหรับนำมาใช้จัดงานในประเทศไทย
นายกีรติ กล่าวต่อว่า ทอท. ในฐานะผู้บริหารท่าอากาศยานหลัก 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ แม่ฟ้าหลวง เชียงราย ภูเก็ต และหาดใหญ่ พร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับนักเดินทางจากทั่วโลกเข้ามายังประเทศไทย โดยจะอำนวยความสะดวก และให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนภารกิจในการต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ รวมถึงการจัดงานในระดับนานาชาติ ซึ่งจะจัดสรรพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสาร ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงการประชาสัมพันธ์การจัดงานไมซ์ และร่วมส่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ซึ่งจะเป็นการส่งเสริม และยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ให้เติบโต เพื่อร่วมกันดึงดูดให้มีการเดินทางมายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น อันจะเป็นการนำเม็ดเงินลงทุนเข้าประเทศ สร้างรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมต่อไป
นายกีรติ กล่าวอีกว่า ส่วนหนึ่งของการร่วมขับเคลื่อน Thailand MICE One Stop Service คือ การบริการอำนวยความสะดวกในการเข้าเมืองให้กับแขกวีไอพีซึ่งเป็นนักเดินทางไมซ์ต่างชาติ ณ สนามบิน ผ่านช่องทางพิเศษ (MICE Lane Service) ซึ่งปัจจุบันมีให้บริการ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง แต่เป็นการให้บริการแบบชั่วคราว โดยในปี 66 มีงานที่ขอใช้บริการ MICE Lane 211 งาน ให้บริการนักเดินทางไมซ์ 6,684 คน ส่วนในช่วง 6 เดือนแรกของปี 67 (ม.ค.-มิ.ย.67) มีงานที่ขอใช้บริการ MICE Lane รวม 160 งาน ให้บริการนักเดินทางไมซ์ 9,701 คน
นายกีรติ กล่าวด้วยว่า ทอท. เตรียมขยายการให้บริการ MICE Lane Service ไปยังสนามบิน ทอท. ทั้ง 6 แห่ง โดยจะเป็นการเปิดดำเนินการแบบถาวรภายในปลายปี 67 จากนั้นในปี 69 จะเปิดให้บริการที่สนามบินอุดรธานี เพื่อเตรียมรองรับจำนวนนักเดินทางที่จะมาร่วมงานมหกรรมพืชสวนโลก โดยขณะนี้สนามบินอุดรธานีอยู่ระหว่างการถ่ายโอนมายัง ทอท. คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 67 และพร้อมที่จะลงทุนพัฒนาระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ ในการเข้า-ออกประเทศไทย ให้เหมือนกับสนามบินของ ทอท. อย่างไรก็ตามปัจจุบันได้ลงทุนระบบฯ ที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้วประมาณ 450 ล้านบาท และอีก 5 สนามบินจะลงทุนพัฒนา วงเงินประมาณ 600 ล้านบาท จะแล้วเสร็จภายในปลายปี 67
นายกีรติ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันผู้โดยสารที่มาใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ 1.8 แสนคนต่อวัน คาดว่าในช่วงตารางบินฤดูหนาว ตั้งแต่เดือน ต.ค.67-มี.ค.68 จะมีผู้โดยสารประมาณ 2.1 แสนคนต่อวันเท่ากับเมื่อปี 62 ทั้งนี้ในช่วงที่ทีเส็บดึงงานใหญ่หลายรายการมาจัดในประเทศไทย คาดว่าจะมีนักเดินทางไมซ์ประมาณ 1 หมื่นคนต่อวัน อย่างไรก็ตามทั้ง 4 หน่วยงานพันธมิตร ขอประกาศความพร้อม และส่งสัญญาณให้ความมั่นใจกับตลาดต่างประเทศว่า ประเทศไทยมีการเตรียมความพร้อมรองรับงานไมซ์ และอำนวยความสะดวกนักเดินทางไมซ์เข้าประเทศ สนองนโยบายรัฐบาล ผลักดันไทยจุดหมายการจัดงานเชิงธุรกิจและเทศกาลนานาชาติ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ.