เมื่อวันที่ 15 ก.ค. นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมกับภาพของ นายอัครเดช ฉากจินดา ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ ขณะนั่งรถเข็นในโรงพยาบาลราชวิถี โดยเขียนข้อความว่า “เพื่อนผมกำลังจะหมดแรง”
โดยนายประสิทธิ์ชัย และ นายอัครเดช ได้อดอาหารตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยขอให้รัฐทำตามข้อเสนอของเครือข่ายที่ต้องการให้เสนอผลการวิจัย คุณ-โทษ ของ กัญชา เทียบกับ บุหรี่ และ สุรา หากผลออกมาว่ากัญชามีโทษมากกว่าเครือข่ายจะยอมถอย ทั้งนี้ ทางเครือข่ายฯ และตัวแทนพรรคการเมืองต่าง ๆ ได้ร่วมกันทำกฎหมาย พ.ร.บ.กัญชาเพื่อควบคุมกัญชาให้อยู่กับสังคมได้โดยไม่ต้องผลักให้ไปอยู่ในคุกแต่กลับถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าจากผู้มีอำนาจ ที่ต้องการพิพากษากัญชาโดยไม่ต้องไต่สวน เพื่อกระทำการผูกขาดผลประโยชน์กัญชาแต่เพียงกลุ่มเดียว ดังนั้นพวกเขาจึงประท้วงด้วยการอดอาหาร จนกว่ารัฐบาลจะยอมไต่สวนก่อนการพิพากษา
โดยก่อนหน้านี้ นายประสิทธิ์ชัย ได้โพสต์ถึงโทษหลังจากนำกัญชากลับสู่ยาเสพติด โดยระบุว่า ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 500,000 บาท แต่หากเป็นการกระทำเพื่อ 1.การค้า 2.การก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน 3.การจำหน่ายให้แก่บุคคลอายุไม่เกิน 18 ปี 4.การจำหน่ายในบริเวณสถานศึกษา 5.สถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใดหรือสถานที่ราชการ 6.การกระทำใดใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้าย และ 7. การกระทำโดยใช้อาวุธ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-15 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 บาทถึง 1,500,000 บาท ซึ่งเป็นโทษที่สูงมาก