ศึกเทนนิส แกรนด์สแลม รายการ “วิมเบิลดัน” ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในรอบชิงชนะเลิศ ประเภทชายเดี่ยว คาร์ลอส อัลการาซ แชมป์เก่า และมือ 3 จากสเปน โชว์ฟอร์มสุดหรู หลังย้ำแค้น โนวัค ยอโควิช มือ 2 และรองแชมป์เก่าจากเซอร์เบีย ขาดลอย 3 เซตรวด 6-2, 6-2, 7-6 (7-4) ผงาดคว้าแชมป์ไปครองเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน และทำสถิติเป็นนักเทนนิสคนที่ 4 ที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ถึง 4 รายการในช่วงอายุไม่เกิน 21 ปี
แมตช์นี้ อัลการาซ อาศัยร่างกายที่สดกว่าไล่ทุบ ยอโควิช ที่อาวุโสกว่าถึง 16 ปี แถมยังมีปัญหาบาดเจ็บหัวเข่า และเคลื่อนที่ได้ไม่ดีนัก ไปได้สบายใน 2 เซตแรก ก่อนที่ “โนเล” จะไว้ลายด้วยการเซฟ 3 แชมเปี้ยนชิพพอยต์ในเซตที่ 3 และยื้อไปได้ถึงช่วงไทเบรก แต่ก็ต้านความแรงของ หนุ่มแดนกระทิงดุ ไม่ไหว และพ่ายไป 6-7 (4-7) ในที่สุด
จากชัยชนะเหนือ โยโควิช ครั้งนี้ทำให้ อัลการาซ กลายเป็นนักเตะเทนนิสคนที่ 2 ในยุคโอเพ่นที่คว้าชัยได้ 100 เปอร์เซ็นต์ในการเข้าชิงชนะเลิศแกรนด์สแลม 4 หนแรก ถัดจาก โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ที่คว้าชัยได้เรียบวุธในการเข้าชิงดำ 7 ครั้งแรก
นอกจากนี้ นักหวดหนุ่มวัย 21 ปี ยังทำสถิติเป็นนักเทนนิสคนที่ 6 ในยุคโอเพ่นที่คว้าแชมป์ เฟรนช์ โอเพ่น และ วิมเบิลดัน ได้ในปีเดียวกัน ถัดจาก ร็อด เลเวอร์, บิยอร์น บอร์ก, ราฟาเอล นาดาล, เฟเดอเรอร์ และ ยอโควิช อีกด้วย.
ภาพ AFP, gettyimages
