สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 14 ก.ค. โดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูงในกลุ่มฮามาส ว่ามีการถอนคณะผู้แทนเจรจา จากการร่วมหารือกับอิสราเอล ที่กรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ โดยผ่านคนกลางคือกาตาร์และอียิปต์ เนื่องจากปฏิบัติการทางทหารครั้งล่าสุดของอิสราเอล ที่เป็นการ “สังหารหมู่” ประชาชนในฉนวนกาซา และจุดยืนแท้จริงของรัฐบาลเทลอาวีฟ ที่มีต่อการเจรจา
ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 92 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 300 คน จากปฏิบัติการโจมตีทางทหารของกองทัพอิสราเอล ที่ค่ายผู้ลี้ภัยอัล มาวาซี ซึ่งถือเป็น “เขตมนุษยธรรม” ใกล้กับเมืองข่าน ยูนิส ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ด้านกองทัพอิสราเอลยืนยันการเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีเป้าหมายเพื่อสังหารนายโมฮัมเหม็ด เดอิฟ ผู้นำกองพลน้อยอัล-กอสซัม ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮามาส และนายราฟา ซาลามา ผู้ช่วยของเดอิฟ อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในกองพลน้อยอัล-กอสซัม กล่าวว่า เดอิฟและซาลามา “สบายดี”
ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า ปฏิบัติการทางทหารของกองทัพอิสราเอลคือการเพิ่มแรงกดดัน ให้กลุ่มฮามาสเข้าสู่การเจรจาหยุดยิงอย่างจริงจัง แต่อีกฝ่ายกลับเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการหยุดยิง อย่างน้อย 29 ข้อ รวมถึงการที่รัฐบาลของฉนวนกาซาในอนาคต ต้องมาจาก “กลุ่มชาวปาเลสไตน์ที่มีความเป็นกลาง”
กระนั้น ผู้นำอิสราเอลกล่าวถึงหนึ่งในเงื่อนไขของตัวเอง ว่าอิสราเอลต้องยังคงสามารถควบคุมพรมแดนทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ซึ่งติดกับอียิปต์ โดยให้เหตุผลว่า เพื่อป้องกันการลักลอบลำเลียงอาวุธข้ามพรมแดน ให้แก่กลุ่มฮามาส.
เครดิตภาพ : AFP