จากกรณี นายปราโมทย์ ศิวาโมกข์ หรือ คุณตาปราโมทย์ อายุ 95 ปี เจ้าของห้องเช่าพื้นที่เมืองนนทบุรี ได้ว่าจ้าง “นายเจ” ช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าให้มาซ่อมเครื่องซักผ้าและตู้น้ำหยอดเหรียญหน้าห้องเช่าของคุณตา หลังซ่อมเสร็จได้ให้บัตรเอทีเอ็ม “ช่างเจ” ไปกดเงินค่าแรงจำนวน 3,000 บาท แต่ฝ่ายช่างหนุ่มกลับแอบกดเงินออกไป 2 ครั้ง รวมทั้งหมดจำนวน 43,000 บาท ต่อมาคุณตานำเงินจากการเก็บค่าเช่าห้องไปเข้าบัญชี ถึงได้ทราบว่าเงินถูกกดออกไป จึงเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ช่วยติดตามตัว นายเจ มารับผิดชอบ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 12 ก.ค. นายเจ อายุ 33 ปี ช่างซ่อม ได้เดินทางมากราบขอโทษคุณตาปราโมทย์ หลังจากนำเงิน 40,000 บาทในบัญชีของ นายปราโมทย์ ไปใช้จริง ภายหลังเปิดเผยว่า ตนซ่อมเครื่องซักผ้าให้กับคุณตามานานกว่า 7 ปี วันเกิดเหตุมาซ่อมเครื่องซักผ้าและตู้น้ำหยอดเหรียญที่หน้าห้องเช่า หลังซ่อมเสร็จ ตาปราโมทย์ ไม่มีเงินสด จึงให้บัตรเอทีเอ็มและเขียนรหัสให้ตนไปกดเงินค่าซ่อมและค่าอะไหล่ จำนวน 3,000 บาท ตอนนั้น ตนมีปัญหาเรื่องเงิน ต้องจ่ายค่าแชร์ และค่าใช้จ่ายในร้าน ยอมรับผิดเรื่องที่แอบกดเงินของคุณตาออกไป พอเห็นข่าวจึงรีบเดินทางมากราบขอโทษ และจะนำเงินจำนวน 40,000 บาท มาคืนให้ โดยวันที่ 23 ก.ค. 67 จะนำเงินมาคืน และพาตาปราโมทย์นำเงินไปเข้าบัญชีที่ธนาคารด้วยกัน
ด้าน คุณตาปราโมทย์ กล่าวว่า ตนให้อภัย “ช่างเจ” เพราะเขามาซ่อมเครื่องซักผ้าให้ตลอด ไม่คิดโกรธ ต่อไปก็ยังจะให้มาซ่อมเหมือนเดิม หากนำเงินมาคืนก็จะเอาไปเข้าบัญชีไว้ และจะไปขอบคุณผู้จัดการธนาคารด้วย เพราะวันแรกที่ทราบว่าเงินหายไป ผู้จัดการกลัวว่า ตนจะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก และถ้านำเงินมาคืนแล้ว ก็จะไปถอนแจ้งความที่โรงพักทันที.