เมื่อวันที่ 12 ก.ค.67 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ว่าที่มีคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าช่วงนี้มีกิจการโรงงานจำนวนมากที่ต้องปิดตัวลงไปนับหมื่นล้านบาท เป็นเหตุให้คนตกงานกันจำนวนมาก นั้น
ข้อเท็จจริงที่พึงรู้เท่าทันก็คือ เป็นธรรมดาที่…ในทุกๆ ปีย่อมมีทั้งกิจการโรงงานที่ต้องปิดตัวลงและเลิกจ้างงานจำนวนหนึ่ง ในขณะเดียวกันก็มีกิจการโรงงานใหม่ๆ เกิดขึ้นมาทดแทนพร้อมกับการจ้างงานใหม่ ไม่มีหรอกครับที่จะมีแต่กิจการที่ปิดตัวลง หรือ มีแต่กิจการที่เปิดขึ้นใหม่
จุดที่ควรจะพิจารณาก็คือ กิจการที่ปิดตัวไป กับกิจการที่เปิดใหม่ อะไรมากน้อยกว่ากันอย่างไร ถ้าปิดมากกว่าเปิดก็แสดงว่าแย่ แต่ถ้าเปิดมากกว่าปิดก็เป็นสัญญาณบวกทางเศรษฐกิจของประเทศ
จากรายงานข้อมูลการ ปิด vs เปิด ของกิจการโรงงานย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 65 จะเห็นว่า แนวโน้มตัวเลขการเปิดกิจการโรงงานใหม่และการจ้างงานใหม่ใน 5 เดือนแรกของปี 67 สูงกว่าจำนวนโรงงานที่ต้องปิดตัวลงไปและต้องเลิกจ้างงาน ในอัตราที่แตกต่างกันมากกว่าปี 65-66 ตัวเลขรายงานนี้ชี้ชัดว่า แนวโน้มการขยายตัวของกิจการโรงงานในปัจจุบันดีกว่าในช่วงสองปีก่อนหน้านี้
ไม่ใช่แค่มีโรงงานเปิดใหม่ที่มูลค่าสูงกว่าโรงงานที่ปิดไปเท่านั้น แต่ยังมีโรงงานเก่าที่ขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นด้วย หรือถ้าจะเปรียบเทียบที่จำนวนโรงงาน…รายงานก็บ่งชัดเช่นกันว่า มีจำนวนโรงงานที่เปิดใหม่มากกว่าจำนวนโรงงานที่ปิดตัวไป อย่างมีนัยสำคัญ
การวิพากษ์วิจารณ์บนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้อง จะเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนมากกว่านะครับ
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวตรวจสอบข้อมูลกรมโรงงานอุตสาหกรรม ณ วันที่ 12 มิ.ย.67 ช่วง 5 เดือนแรกของปี 67 (ม.ค.-พ.ค.67) พบว่ามีโรงงานตั้งใหม่ 848 โรง ขยายกิจการ 126 โรง เลิกกิจการ 488 โรง (มีโรงงานตั้งใหม่มากกว่าโรงงานเลิกกิจการ 74%) มีการจ้างงานใหม่มากกว่าเลิกกิจการ 169% คิดเป็นมูลค่าการลงทุนใหม่ 149,889 ล้านบาท เลิกกิจการ 14,042 ล้านบาท