หลังจากเดลินิวส์ ได้เกาะติดนำเสนอข่าวปัญหาการถือครองที่ดินของรัฐ และการประกอบธุรกิจวิลล่าหรูให้เช่าของชาวต่างชาติบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มาอย่างต่อเนื่อง โดย พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 4 ได้สั่งการให้ พ.อ.ดุสิต เกษรแก้ว หัวหน้าชุดแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กองทัพภาค ที่ 4 เข้าดำเนินการ ด้วยการบูรณาการหน่วยงานบังคับใช้กฏหมายที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตรวจสอบ และพบว่าในหลายพื้นที่ มีการกระทำผิดในหลาย พ.ร.บ. คือ พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร,พ.ร.บ.โรงแรม และ พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

แจ้งเอาผิดนิติบุคคล3ข้อหารวด คดีวิลล่าหรูผุดบนเขาเฉวงน้อย จ่อฟันกลุ่มข้าราชการมีเอี่ยว

ความคืบหน้าวันที่ 11 ก.ค. ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย พล.ต.อนุสรณ์ โออุไร รองแม่ทัพภาคที่ 4/ รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.อภิสันฐ์ ไชยรัตน์ ผกก.5 บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยคณะพนักงานสอบสวน ปทส. และชุดตรวจสอบฯ กอ.รมน.ภาค 4 เพื่อสรุปความคืบหน้าและแนวทางในการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิด ทั้งนี้ในการประชุม ได้กำหนดแนวทางดำเนินการออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มพื้นที่สีฟ้า กลุ่มพื้นที่สีเหลือง และกลุ่มพื้นที่สีแดง โดยจะเร่งสอบสวนปากคำพยานและออกหมายจับในคดีกลุ่มพื้นที่สีแดงเป็นคดีแรก โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ภายในสัปดาห์หน้า

สำหรับความผิดที่จะเข้าดำเนินโดย ปทส. ตาม พ.ร.บ.ควบคุมสิ่งแวดล้อม และ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ในบริเวณจุดก่อสร้างอาคาร 53 หลัง บนสันเขาเฉวงน้อย พื้นที่หมู่ 4 ต.บ่อผุด ซึ่งจำแนกออกเป็น 3 กลุ่มพื้นที่ ประกอบด้วย กลุ่มพื้นที่สีฟ้า ต้องมีเนื้อที่ก่อสร้างไม่น้อยกว่า 100 ตร.ว.พื้นที่อาคารคลุมดินต่อหลังไม่เกิน 90 ตร.ม.และมีพื้นที่ว่างไม่น้อบกว่าร้อยละ 70 ของพื้นที่ที่ขออนุญาต ผลตรวจสอบเป็นอาคารที่ก่อสร้างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย 22 หลัง ไม่มีใบอนุญาต 6 หลัง

กลุ่มพื้นที่สีเหลือง ความลาดชันตั้งแต่ร้อยละ 35 ไม่เกินร้อยละ 50 มีได้เฉพาะอาคารที่อยู่อาศัยที่เป็นอาคารเดี่ยวความสูงไม่เกิน 6 เมตรขนาดแปลงที่ดินที่ยื่นขออนุญาตก่อสร้างต้องมีเนื้อที่ ไม่น้อยกว่า 120 ตารางวาพื้นที่อาคารคลุมดินต่อหลังไม่เกิน 80 ตารางเมตรและมีพื้นที่ว่างไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของแปลงที่ดินที่ขออนุญาตก่อสร้างอาคาร จำนวน 20 หลัง ไม่มีใบอนุญาต 9 หลัง และกลุ่มพื้นที่สีแดง พื้นที่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางเกินกว่า 140 เมตรขึ้นไปและมีความลาดชันเกินกว่าร้อยละ 50 ขึ้นไป ห้ามมิให้ก่อสร้างอาคารใดๆ จำนวน 11 หลัง แต่ในส่วนนี้มีใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ถึง 2 หลัง

อย่างไรก็ตามในการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบการกระทำผิดของนิติบุคคลที่เข้าข่ายตัวการสนับสนุนในความผิด พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว (ตัวแทนอำพราง) โดยพบว่านิติบุคคล ซึ่งเป็นสัญชาติไทยอย่างแท้จริง ได้ทำการซื้อที่ดิน นำมาแบ่งล็อก โดยไม่มีการแบ่งแยกโฉนด แล้วนำไปให้บุคคลต่างด้าวเช่าในระยะยาว 30 ปีตามกฎหมาย โดยมีสัญญาแนบท้ายเป็นสัญญาก่อสร้างและเช่าอาคาร ที่นิติบุคคลเป็นผู้ดำเนินการสร้าง ตามแบบที่นิติบุคคลกำหนด และให้จ่ายค่าก่อสร้างในลักษณะงวดงานก่อสร้าง ให้ดูเหมือนว่า ผู้เช่าที่ดินเป็นผู้ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างด้วยตนเองในพื้นที่ที่ดินเช่า และพบการโอนใบอนุญาตก่อสร้างให้กับผู้เช่า จากนั่นบุคคลต่างด้าวเจ้าของสัญญาเช่า ก็จะนำอาคารวิลล่า ไปให้บุคคลอื่นเข้าพักทั้งแบบรายวันและรายเดือน เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการขออนุญาตการประกอบกิจการโรงแรม แต่เป็นการกระทำที่เข้าข่ายการประกอบธุรกิจของบุคคลด้าว และมีนิติบุคคล เป็นผู้สนับสนุน

พล.ต.อนุสรณ์ โออุไร รองแม่ทัพภาคที่ 4/ รอง ผอ.รมน.ภาค 4 กล่าวภายหลัง ว่า ขณะนี้ถือว่าการทำงานของคณะทำงานคืบหน้าไปมากแล้ว ในวันนี้เราได้ส่งมอบพยานหลักฐานและข้อมูลการสืบสวนข้อเท็จจริง รวมถึงได้ได้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ปทส. ซึ่งการดำเนินการหลังจากนี้ไป เป็นหน้าที่ของตำรวจ ปทส.ในการติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
ในส่วนของ กอ.รมน.ภาค 4 ก็จะเดินหน้าตรวจสอบเก็บหลักฐานในจุดอื่นๆ โดยหลังจากนี้คาดว่าจะทำงานได้เร็วขึ้น เนื่องจากเรามีรูปแบบการทำงานที่ชัดเจนตามแบบ สมุยโมเดล รวมถึงมีความร่วมมือจากตำรวจ ปทส. ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการสอบสวนขยายผลคดีที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติโดยตรง