สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ว่าอัตราเงินเฟ้อประจำปีของฟิลิปปินส์ลดลงเหลือร้อยละ 3.7 เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา จากร้อยละ 3.9 ในเดือน พ.ค. เนื่องจากต้นทุนพลังงานและการขนส่งที่ผ่อนคลายลง
นายเดนนิส มาปา ผู้อำนวยการพีเอสเอ ระบุว่า แนวโน้มขาลงของอัตราเงินเฟ้อโดยรวมในเดือน มิ.ย. ได้รับอิทธิพลหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาที่อยู่อาศัย, น้ำ, ไฟฟ้า, ก๊าซ และเชื้อเพลิงอื่น ๆ ต่อปีที่ช้าลงที่ร้อยละ 0.1 จากร้อยละ 0.9 ในเดือน พ.ค. มากไปกว่านั้น ค่าใช้จ่ายด้านการขนส่ง, ร้านอาหาร และที่พักที่เพิ่มขึ้นช้าลงในแต่ละปี ส่งผลต่อแนวโน้มขาลงเช่นเดียวกัน
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยของฟิลิปปินส์ ระหว่างเดือน ม.ค.-มิ.ย. ปีนี้ อยู่ที่ร้อยละ 3.5 ตรงกันข้ามกับเมื่อปี 2566 ซึ่งอัตราเงินเฟ้อในเดือน มิ.ย. อยู่ที่ร้อยละ 5.4 มาปาให้ข้อมูลว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมรายการอาหารและพลังงาน ทรงตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.1 ในเดือน มิ.ย. เทียบกับสถิติเมื่อช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ซึ่งอัตราเงินเฟ้อสูงถึงร้อยละ 7.4
ในทางกลับกัน นายอาร์เซนิโอ บาลิซากัน เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจและการพัฒนาแห่งชาติฟิลิปปินส์ กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อด้านอาหารเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 6.5 จากร้อยละ 6.1 เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากราคาผักและเนื้อสัตว์ที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ฟิลิปปินส์ยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาล, ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และภาคส่วนอื่น ๆ เพื่อดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่า ประชาชนจะมีอาหารที่เพียงพอและราคาไม่แพงเพื่อการบริโภค โดยเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา คณะกรรมการประสานงานงบประมาณเพื่อการพัฒนา แสดงความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเสถียรภาพด้านราคา และปรับลดอัตราเงินเฟ้อให้ลดลงเหลือตามเป้าหมายเฉลี่ยร้อยละ 2-4 ระหว่างปี 2568-2571.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES