สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ว่าชาวฝรั่งเศสบนแผ่นดินใหญ่ทยอยออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งทั่วไป ในรอบที่สองหรือรอบตัดสิน ส่วนประชาชนในดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส และชาวฝรั่งเศสซึ่งอาศัยอยู่ในต่างประเทศ ใช้สิทธิเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ การเลือกตั้งทั่วไปของฝรั่งเศสครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนกำหนด จากการที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ยุบสภาผู้แทนราษฎร จากการที่พรรครัฐบาลซึ่งเป็นสายกลาง พ่ายแพ้ให้แก่พรรคขวาจัด ในการเลือกตั้งสมาชิกสภายุโรป โดยการเลือกตั้งทั่วไปของฝรั่งเศส จะเป็นการชิงชัย 577 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร


ขณะที่ผลการเลือกตั้งรอบแรกปรากฏว่า พรรคแนวร่วมแห่งชาติ (อาร์เอ็น) ของนางมารีน เลอ แปน และนายจอร์แดน บาร์เดลลา ได้รับการเลือกตั้งเข้ามามากที่สุด ตามด้วยพันธมิตรฝ่ายซ้าย และพันธมิตรสายกลางนำโดยพรรคเรเนสซองส์ ของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง

FRANCE 24 English


ด้านผลสำรวจความคิดเห็นโดยสำนักโพลหลายแห่งของฝรั่งเศส คาดการณ์ไปในทางเดียวกัน ว่าพรรคอาร์เอ็นจะได้รับเลือกตั้งระหว่าง 170-210 ที่นั่ง ตามด้วยพันธมิตรฝ่ายซ้าย 145-185 ที่นั่ง และพันธมิตรสายกลางของมาครง 118-150 ที่นั่ง

หากผลการเลือกตั้งรอบสุดท้ายออกมาตามโพล แม้พรรคอาร์เอ็นจะยังได้รับเสียงสนับสนุนไม่ถึงการครองเสียงข้างมาก คือ 289 ที่นั่ง แต่จะยังคงเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ที่สุดในสภารอบนี้ เพิ่มแรงกดดันให้แก่มาครง ในการแต่งตั้งบาร์เดลลา ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ส่วนผู้นำฝรั่งเศสค่อนข้างเก็บตัว ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้งรอบที่สอง และยังคงยืนยันจะปฏิบัติหน้าที่ จนครบวาระการดำรงตำแหน่ง ในปี 2570


อนึ่ง บรรดานักวิเคราะห์การเมืองยุโรปมองว่า ฝรั่งเศสกำลังอยู่บน “ความเสี่ยงของการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางการเมือง” ต่อให้มาครงอาจยังคงควบคุมรัฐบาลขวาจัดได้ แต่จะยังคงเผชิญกับ “ความติดขัดของกระบวนการนิติบัญญัติ” ซึ่งมีแต่จะยิ่งสั่นคลอนบทบาทของฝรั่งเศส บนเวทีระหว่างประเทศ.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES