ดิดิเยร์ เดสชองส์ กุนซือ “ตราไก่” ฝรั่งเศส เปิดใจว่าสุดปลื้มที่ได้เห็นลูกทีมชนะการดวลจุดโทษเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ฟุตบอลโลกปี 1998 ด้วยการดวลจุดโทษชนะโปรตุเกส 5-3 ในรอบ 8 ทีม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า

“มันเป็นเวลานานมาก มันเป็นเกมที่ยากมาก เรารู้ว่าทีมโปรตุเกสเก่งแค่ไหน และทั้งสองทีมต่างมีโอกาสชนะ มันยากขึ้นอีกสำหรับเราในช่วงต่อเวลาพิเศษ อาจเป็นเพราะเราเหนื่อยและพวกเขาได้บอลมากกว่า แต่เราก็ยังนิ่ง และผู้ที่ทำหน้าที่สังหารจุดโทษก็นิ่งมาก”

ทั้งนี้ “ตราไก่” ฝรั่งเศส อับโชคในการดวลจุดโทษมานาน หลังเคยพ่าย “ฟ้าขาว” อาร์เจนตินา ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 2022 ด้วยการดวลจุดโทษ และยังตกรอบยูโรรอบสุดท้ายเมื่อ 3 ปีก่อน พ่ายยิงจุดโทษต่อสวิตเซอร์แลนด์ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย นอกจากนี้ยังพ่ายแพ้ต่ออิตาลี ในการดวลจุดโทษในฟุตบอลโลก 2006 รอบชิงชนะเลิศ ทำให้ครั้งนี้ เป็นชัยชนะครั้งแรก ในการชนะจุดโทษหนแรกในรอบ 26 ปีของฝรั่งเศส นับจากครั้งล่าสุดเมื่อฟุตบอลโลก 1998 รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่ชนะอิตาลี 4-3

“ผมภูมิใจในนักเตะของผม แม้ว่าเราจะไม่ได้ทำทุกอย่างอย่างสมบูรณ์แบบ แต่เราก็ไม่ยอมแพ้ และอีกครั้งที่เราผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ผมจะลิ้มรสความสุขแบบนี้สักหน่อย แม้ว่าเราจะมีเกมอื่นที่กำลังจะมาถึงก็ตาม” เดสชองส์ ทิ้งท้าย

โวตราไก่หน้าไม่คมแต่หลังปึ๊ก

นอกจากนั้น เดสชองส์ กล่าวว่า แม้ทีมฝรั่งเศสชุดนี้ กองหน้าจะฟอร์มตก จังหวะจบสกอร์ไม่คม แต่มีดีที่ชดเชยด้วยเกมรับที่แน่นปึ้ก แม้แต่กัปตันทีมซูเปอร์สตาร์ คีลิยัน เอ็มบัปเป ก็ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด แต่จะพยายามปรับจูนเกมรุกให้ดีขึ้นในรอบรองฯ

“เอ็มบัปเป ซื่อสัตย์กับผมและทีมเสมอ และมันก็มาถึงจุดที่เขารู้สึกว่าไม่สามารถเร่งความเร็วได้อีกต่อไป จากทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา เขาไม่ฟิตเท่าที่ควร บวกกับปัญหาเจ็บหลังและอาการบาดเจ็บที่จมูก เขารู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด และด้วยความพยายามทั้งหมดที่เขาทุ่มเท เขาก็เหนื่อยมาก”

เดสชองส์ ยอมรับว่าทีมของเขาต้องพัฒนาเกมรุกให้ดียิ่งขึ้น โดยบอกว่า “ความแข็งแกร่งของเราเป็นแบบอย่าง และนั่นเป็นสิ่งสำคัญในทัวร์นาเมนต์สำคัญ เมื่อคุณทำประตูได้ไม่มากนัก ก็ไม่เสียประตูเลยจะดีกว่า แต่ผมอยากให้เรามีความเฉียบคมมากกว่านี้”

ฟวนเตชี้ชุดนี้ดีพอคว้าแชมป์

หลุยส์ เด ลา ฟวนเต กุนซือ “กระทิงดุ” สเปน วัย 63 ปี สุดปลื้ม ลั่นภาคภูมิใจสุด ๆ กับ “กระทิงดุ” ชุดนี้ หลังจากที่ต่อเวลาพิเศษ เชือดเจ้าภาพ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี 2-1 ในรอบ 8 ทีม มั่นใจมีดีพอจะคว้าแชมป์

“นักเตะของผมกระหายในชัยชนะ ผมภูมิใจมากๆ ที่ได้ร่วมงานกับนักเตะชุดนี้ ซึ่งมีอยู่หลายคนที่ผมรู้จักมานานหลายปี พวกเขาคุ้นเคยกับการเกมระดับสูง และมีโอกาสคว้าแชมป์รายการนี้ นี่คือกลุ่มนักเตะที่พร้อมจะแข่งขันเสมอ นี่คือม้าแห่งชัยชนะ ผมภูมิใจที่ได้ฝึกสอนผู้เล่นแบบนี้ ผู้เล่นที่ไม่รู้จักพอ