เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 67 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาลดโทษจำคุก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. (ม็อบนกหวีด) กับพวก จากเดิมที่ศาลชั้นต้นตัดสินไว้เมื่อเดือน ก.พ. 64 ให้จำคุกคนละ 4-9 ปีกว่า ๆ ก็ลดลงมาเหลือคนละ 1 ปี-1 ปีเศษ ๆ โดยไม่รอลงอาญา!
จากความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ก่อการร้าย ยุยงให้หยุดงาน กระทำให้ปรากฏด้วยวาจาหรือวิธีการอื่นใดฯ ทำให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในราชอาณาจักรฯ อั้งยี่ ซ่องโจร มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ บุกรุกในเวลากลางคืน และร่วมกันขัดขวางการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 57 จนสำเร็จลุล่วงตามเป้าประสงค์ของม็อบนกหวีด
นายสุเทพกับพวกยังต้องไปลุ้นกันที่ศาลฎีกา ซึ่งคงใช้เวลาอีก 1-2 ปี กว่าจะตัดสินว่าจะ “รอดคุก” กันหรือไม่? หลังจากคดีแนว ๆ เดียวกันนี้ มีอดีตสว.พัทลุงกับพวกที่เป็นแกนนำ กปปส.พัทลุง ยกโขยงกันไปขัดขวางการเลือกตั้งเมื่อ 2 ก.พ. 57 ถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุกคนละ 2 ปีกว่า ๆ ไปตั้งแต่เดือน ม.ค. 64 ป่านนี้คงออกจากคุกกันไปหมดแล้ว
“พยัคฆ์น้อย” ไม่รู้ว่าเมื่อนายสุเทพกับพวกเจอคุกกันไปแล้ว 2 ศาล ส่วน “คดีแพ่ง” ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการขัดขวางการเลือกตั้งจนสำเร็จลุล่วง เป็นเงินประมาณ 3,100 ล้านบาท คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว? เดี๋ยวถ้าเจอนายแสวง บุญมี เลขาฯกกต.จะลองสอบถามดู! เพราะเงิน 3,100 ล้านบาท เป็นงบประมาณแผ่นดิน
การขัดขวางการเลือกตั้งเมื่อ 2 ก.พ. 57 คือ “เชื้อ” ที่นำมาสู่ความ “วายป่วง” ให้กับคนไทยในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งปัญหาทางการเมือง ปัญหาความแตกแยกของคนในชาติ ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคมและความเหลื่อมล้ำ ระหว่างคนรวย-คนจน ทิ้งห่างกันมากขึ้น
หลังการเลือกตั้งเมื่อ 2 ก.พ. 57 ถูกล้ม! จึงนำไปสู่การ “รัฐประหาร” เมื่อ 22 พ.ค. 57 แล้วมีการแต่งตั้ง สว. และร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
เมื่อเนื้อหาสาระในร่างรัฐธรรมนูญไม่เป็นที่พอใจของผู้มีอำนาจ ก็เปลี่ยน “หัวขบวน” ร่างรัฐธรรมใหญ่ จนกระทั่งได้ สว.แต่งตั้ง เข้ามาร่วมวงไพบูลย์ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีถึง 2 ครั้ง!
โดยเฉพาะการโหวตเลือกนายกฯครั้งหลังของ สว.ลากตั้ง ถือเป็นสาเหตุสำคัญทำให้การจัดตั้งรัฐบาลชุดปัจจุบันเป็นไปอย่างล่าช้า! ส่งผลให้งบประมาณปี 67 ต้องล่าช้าไปถึง 7 เดือน ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจซบเซารุมเร้าด้วยภาระหนี้สินครัวเรือน ดอกเบี้ยแพง ภาวะกำลังซื้อในประเทศหดตัวอย่างต่อเนื่องมาจากรัฐบาลชุดก่อน
สด ๆ ร้อน ๆ คือกฎ กติกา รูปแบบการเลือกสว.ชุดใหม่ 200 คน แบบพิลึกพิลั่น! ให้ผู้สมัครเลือกกันเอง จนกระทั่งได้ สว.จากจ.บุรีรัมย์เข้ามาถึง 14 คน สว.จากกรุงเทพฯ 9 คน สว.จาก จ.สุรินทร์ 7 คน สว.จาก จ.พระนครศรีอยุธยา 7 คน สว.จาก จ.อ่างทอง 6 คน สว.จาก จ.สตูล 6 คน และสว.จาก จ.สงขลา 6 คน ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ไปได้?
ใครชอบหน้าตาของ สว.ชุดใหม่ก็ชอบไป ไม่ขัดข้อง! แต่ถ้าใครรู้สึกว่าไม่ชอบ! ก็ต้องบอกว่าต้นสายปลายเหตุมาจากขัดขวางการเลือกตั้ง และการรัฐประหารในปี 57 คือ “เชื้อ” นำความ “วายป่วง” มาให้!!.
………………………………
พยัคฆ์น้อย
