เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 67 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์กีฬาซีเกมส์, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และนายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมพิธีลงนามเซ็นสัญญาการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ห้องประชุม 1 คณะกรรมการโอลิมปิคฯ โดยมีผู้แทนชาติในสหพันธ์กีฬาซีเกมส์ 10 ประเทศ ร่วมเป็นสักขีพยาน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กล่าวว่า นับเป็นการลงนามครั้งแรกตั้งแต่กีฬาซีเกมส์เคยมีการจัดการแข่งขันมา ถือเป็นการเน้นย้ำในการยกระดับและมาตรฐานการแข่งขันซีเกมส์ให้สูงขึ้น ใกล้เคียงกับการแข่งขันเอเชียนเกมส์และโอลิมปิกเกมส์ ส่วนการที่ 3 จังหวัด ร่วมกันเป็นเจ้าภาพหนนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ประชาสัมพันธ์จังหวัดของตัวเอง รวมถึงมีโอกาสแสดงศักยภาพในการจัดการแข่งขัน รวมไปถึงบริหารจัดการและต้อนรับคณะนักกีฬาจากทั่วอาเซียนที่เข้าร่วมชิงชัย

ขณะที่ นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 64 ปี ตั้งแต่มีการจัดการแข่งขันซีเกมส์มา ที่มีการจัดลงนาม ทั้งนี้ก็เพื่อยืนยันและสร้างมาตรฐานในการจัดการแข่งขันให้อยู่ในระดับเดียวกับเอเชียนเกมส์ และเป็นบรรทัดฐานในการจัดการแข่งขันครั้งต่อๆ ไป

“สหพันธ์กีฬาซีเกมส์ ตั้งใจจะใช้ศึกซีเกมส์ 2025 เริ่มต้นยกระดับและสร้างมาตรฐานการแข่งขันซีเกมส์ให้สูงขึ้น ไม่ให้ถูกด้อยค่า ดูแคลนเหมือนหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา ที่กีฬาพื้นบ้านหลายชนิดที่เคยถูกบรรจุชิงทีละหลายๆ เหรียญทอง ก็จะไม่เกิดขึ้นอีกในครั้งนี้ ส่วนหนนี้จะมีการจัดกี่ชนิดกีฬา จะมีการประชุมและเปิดเผยในสุดสัปดาห์นี้ เบื้องต้นได้รับการเสนอมา 40 ชนิดกีฬา ส่วนจะเพิ่มหรือลด จะให้เวลาอีก 2 เดือน ในการนำเสนอและพิจารณา ซึ่ง 3 จังหวัด ก็พร้อมทำหน้าที่ ด้านสนามหลักในการจัดแข่งขัน ที่วางกันเอาไว้จะอยู่ที่กรุงเทพฯ และชลบุรี ส่วนสงขลา จะจัดแข่งขันกีฬาฟุตบอล ในรอบแบ่งกลุ่ม” หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์กีฬาซีเกมส์ กล่าว

ส่วน ดร.ก้องศักด ยอดมณี กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้ ถือเป็นการยืนยันความพร้อมของประเทศไทย และเจ้าภาพ 3 จังหวัด ที่จะจัดการแข่งขัน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด ของทั้งกรุงเทพฯ, ชลบุรี และสงขลา ได้เดินทางมาลงนาม และยืนยันความพร้อมด้วยตัวเอง ในส่วนของประเทศไทย ซึ่งเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ในครั้งนี้ ก็จะเริ่มต้นเป็นต้นแบบในการสร้างมาตรฐานการแข่งขันให้สูงขึ้น โดยเจ้าภาพครั้งต่อไป อย่าง มาเลเซีย ในปี 2027 และ สิงคโปร์ ในปี 2029 ก็พร้อมจะดำเนินรอยตามการแข่งขันอย่างเป็นสากลในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะการชิงชัยเหรียญทอง ซึ่งก็จะเน้นหนักไปที่กลุ่มกีฬาสากลที่มีในเอเชียนเกมส์และโอลิมปิกเกมส์

“ส่วนเรื่องงบประมาณในการจัดการแข่งขัน เวลานี้อยู่ในขั้นตอนการนำเสนอให้ท่านนายกรัฐมนตรีพิจารณา และรอการลงนามเพื่ออนุมัติ สำหรับใช้ในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์และอาเซียนพาราเกมส์ ซึ่งหากได้รับการลงนาม ก็จะมีการประชุม เตรียมงานกับคณะทำงานทุกๆ ฝ่าย เพื่อเดินหน้าแผนงานที่วางไว้ ในระยะเวลาที่เหลืออีกราว 1 ปีกว่าๆ” บิ๊กก้อง กล่าว

สำหรับ ประเทศไทย เคยเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ มาแล้ว 6 ครั้ง โดยทำหน้าที่เจ้าภาพซีเกมส์ครั้งแรก สมัยที่เรียกว่ากีฬาแหลมทอง เมื่อปี 1959 ต่อด้วยปี 1967, 1975, 1985, 1995 และครั้งล่าสุดปี 2007 ที่ จ.นครราชสีมา โดยซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 9-20 ธ.ค. 2568 (ค.ศ. 2025) โดย 3 จังหวัด กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี และ สงขลา ร่วมเป็นเจ้าภาพ ส่วนกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 จะจัดแข่งขันระหว่าง 20-26 ม.ค. 2569 (ค.ศ. 2026) ที่ จ.นครราชสีมา.