สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ว่า น.ส.ไคลา ไบลท์ วัย 17 ปี จากสหราชอาณาจักร เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อเดือน พ.ค. หลังจากเป็นลมหมดสติ เนื่องจากขาดอากาศหายใจ เมื่อวันที่ 11 พ.ค. เพราะปอดพังจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเทียบเท่ากับบุหรี่ 400 มวนใน 1 สัปดาห์ หรือเฉลี่ย 57 มวนต่อวัน
ปอดของเธอโป่งพองจากฟองอากาศขนาดเล็ก และเมื่อลมในเยื่อหุ้มปอดของเธอแตก อากาศจะเล็ดลอดเข้าไปในช่องอก ทำให้เกิดภาวะปอดบวม และอาจส่งผลให้ปอดล้มเหลวได้ โดยเธอต้องผ่าตัดถึง 5 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อให้แพทย์เอาเนื้อปอดบางส่วนออก หลังจากที่เธอเกือบเข้าสู่ภาวะหัวใจหยุดเต้น
มาร์ค บิดาของไคลา กล่าวว่า เขาได้รับโทรศัพท์ประมาณตี 4 “มันน่ากลัวสำหรับผม” เขาเล่าต่อว่า “ผมร้องไห้เหมือนเด็กทารก มันน่ากลัวมากตอนที่เห็น ผมอยู่กับเธอมาตลอด” มาร์คเรียกสถานการณ์นี้ว่า “อันตรายถึงชีวิต” โดยเขาระบุว่า ไคลามีอาการชักบนเตียงผ่าตัด และพวกเขาคิดว่าเธอคงเสียชีวิตไปแล้ว
ไคลาเริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้า เมื่ออายุ 15 ปี หลังจากที่เห็นเพื่อนในโรงเรียนใช้กัน รายงานอ้างว่า เธอสูบบุหรี่ไฟฟ้า ในปริมาณเทียบเท่ากับบุหรี่ธรรมดา 400 มวน ต่อสัปดาห์ “เพื่อนของฉันกำลังทำมัน” เธอกล่าวกับสำนักข่าวเมโทร “ฉันแค่คิดว่า มันจะไม่เป็นอันตรายและฉันก็สบายดี แต่ตอนนี้ฉันจะไม่แตะต้องมันแล้ว ฉันจะไม่เข้าไปใกล้มัน สถานการณ์นี้ทำให้ฉันกลัวบุหรี่ไฟฟ้าจริง ๆ” หลังการผ่าตัดเสร็จสิ้น เธอใช้เวลาพักฟื้น 2 สัปดาห์ในโรงพยาบาล ก่อนกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน
ตามรายงาน เธอเคยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เมื่อเดือน พ.ย. 2566 หลังมีอาการเข้าข่ายหัวใจวาย ผลการเอกซเรย์พบรูในปอดของเธอ ที่เกิดขึ้นหลังถุงลมพองตัว และเธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอีกครั้งในเดือน ก.พ. 2567
หลังบุตรสาวของตัวเองต้องทนทุกข์ทรมาน ไบลท์ได้เตือนให้เด็ก ๆ เลิกใช้บุหรี่ไฟฟ้า โดยกล่าวว่า “มันไม่คุ้มค่า” เขาอธิบายว่า “ผมเคยไปลงนรกและกลับมาพร้อมกับไคลาในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา” ไบลท์บอกกับเมโทร “สาเหตุของทุกอย่างเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า”
รายงานดังกล่าวระบุว่า ไบลท์สูบบุหรี่ไฟฟ้ามาเป็นเวลา 13 ปี เพื่อช่วยเลิกบุหรี่ และเขาเคยจับได้ว่าไคลาใช้มัน แต่ไม่ทราบว่า บุตรสาวเริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าเมื่อไหร่ หรือมากขนาดไหน จนกระทั่งเกือบต้องเสียเธอไป “ควรมีข้อห้ามอย่างแน่นอนสำหรับเด็ก” ไบลท์เตือน “โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง”.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
