การแข่งขันกีฬายิงปืนรณยุทธนานาชาติ รายการ “Thai Chinese IPSC Handgun Championship 2024” ประเภทปืนสั้น ซึ่งสมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธแห่งประเทศไทย จัดขึ้นสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ศูนย์ฝึกกีฬาภาคตะวันออก การกีฬาแห่งประเทศไทย เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เป็นสนามสุดท้ายของการเก็บคะแนนคัดตัวนักกีฬาทีมชาติ เพื่อไปชิงชัยในการแข่งขันชิงแชมป์ทวีป Australasia 2024 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ปลายเดือน ส.ค. นี้ มีนักกีฬา จาก จีน, สหรัฐอเมริกา, ฟิลิปปินส์, ออสเตรเลีย, ฮ่องกง และไทย เข้าร่วมการแข่งขันกว่า 400 คน

ทั้งนี้ นักกีฬายิงปืนจากประเทศไทย กวาดเหรียญทองได้มากที่สุด 5 รายการ จาก 6 รายการ โดยประเภท โอเพ่น ดิวิชั่น ดาวรุ่งไทย สิรภพ เหมมาลา วัย 15 ปี ดีกรีแชมป์โลก งัดฟอร์มที่สุดยอดยิงทำคะแนนคว้าแชมป์มาครอง

แชมป์รายการอื่นๆ มีดังนี้ คลาสสิก ดิวิชั่น ศดิศกร ชมฤทธิ์, โปรดักชั่น ดิวิชั่น เอกคฑา อัตตานนท์, รีวอลเวอร์ ดิวิชั่น พิรุณ ลีละสุนทเลิศ, ประเภทสแตนดาร์ด ดิวิชั่น จ่าตรีณัฐวัฒน์ นกไธสง, โปรดักชั่น ออปติก พอล ไบอัน ยู (ฟิลิปปินส์) ซึ่งรายการนี้ “เก็ต” นอส.หัสณัฐ วิจิตรปฏิมา มือปืนไทย แม้ไม่สามารถคว้าแชมป์ แต่ทำคะแนนสะสมได้ดีที่สุดในกลุ่มมือปืนไทย

หลังการแข่งขัน นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา เลขาธิการสมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การแข่งขันรายการนี้ถือว่าประสบความสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี มีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกว่า 400 คนจาก 5 ชาติ และ 1 เขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยเฉพาะนักกีฬาจากประเทศจีนเข้าร่วมกว่า 200 คน รวมทั้งยังส่งกรรมการตัดสินเข้าร่วมการตัดสินกว่า 20 คน เพราะกีฬาประเภทนี้เริ่มได้รับความนิยมในประเทศจีนขึ้นเรื่อยๆ

“ด้านนักกีฬาไทยถือว่าในรายการนี้ทุกคนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาก เนื่องจากเป็นสนามสุดท้ายของการคัดตัวทีมชาติ โดยทางสมาคมฯ จะประกาศรายชื่อนักกีฬาที่ได้รับการคัดตัวไปแข่งชิงแชมป์ระดับทวีปที่บาหลี ภายในวันศุกร์ที่ 14 มิ.ย. นี้ นักกีฬาที่มีคะแนนนำโด่งมาเลยก็เป็น รุ่น-Production optic โปรดักชั่น ออปติก อย่าง “เก็ต” นอส.หัสณัฐ วิจิตรปฏิมา และ “ขิง” ศดิกร ชมฤทธิ์ ในรุ่น Classic คลาสสิก ที่แม้จะคว้าแชมป์ไม่ได้ แต่คะแนนรวมในกลุ่มนักกีฬาไทยถือว่ามีคะแนนนำและมีลุ้นติดทีมชาติสูงทีเดียว”

ขณะที่ พลเอก เพิ่มศักดิ์ พวงสาโรจน์ นายกสมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธแห่งประเทศไทย ได้มอบเงินช่วยเหลือนักกีฬาเยาวชนทีมชาติ “นาย-กัตพงศ์ ศรีทอง” นักกีฬาจาก จ.ชุมพร ที่บ้านประสบอัคคีภัย เสียหายทั้งหลัง อีกด้วย.